หน้า:ประวัติฯ ศรีสุริยวงศฯ - ดำรง - ๒๔๗๒.pdf/36

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๙

เป็นพระมหาอุปราช พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวไม่ทรงเห็นชอบด้วย แต่จะทรงโต้แย้งขัดขวาง ก็เห็นไม่เป็นประโยชน์ จึงได้มีพระราชดำรัสอย่างนั้น เรื่องที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวตรัสเล่านี้ ก็สมกับการที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงยกย่องกรมหมื่นบวรวิชัยชาญในเวลาต่อมา เช่น โปรดฯ ให้ไปเยี่ยมตอบราชทูตฝรั่งเศส (ที่ปรากฏในหนังสือ เรื่อง พระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อก่อนเสวยราชย์) และเล่ากันว่า เมื่อเสด็จออกรับเจ้าเมืองสิงคโปร์ที่พลับพลาหว้ากอ โปรดฯ ให้กรมหมื่นบวรวิชัยชาญหมอบเฝ้าฯ ข้างที่ประทับฝ่ายหนึ่งคู่กับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้นเป็นต้น

เหตุใดสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศจึงคิดยกกรมหมื่นบวรวิชัยชาญขึ้นเป็นพระมหาอุปราช ข้อนี้ ท่านที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่แต่ก่อนมีความเห็นพ้องกันโดยมากว่า คงเป็นเพราะสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศคิดเกรงว่า เมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระเจริญวัยขึ้น จะทรงตัดอำนาจวาศนาของท่าน หรืออย่างต่ำ ก็จะคอยโต้แย้งขัดขวางมิให้ท่านทำการงานได้สดวก และอาจทรงทำได้ด้วยเป็นพระเจ้าแผ่นดิน จึงคิดตั้งพระมหาอุปราชไว้เป็นที่กัดกั้น และเลือกกรมหมื่นบวรวิชัยชาญเป็นพระมหาอุปราชด้วยเห็นว่า จะเข้ากันกับวังหลวงไม่ได้ ก็จะจำเป็นต้องอาศัยตัวท่านทั้งฝ่ายวังหลวงและวังหน้า ดังนี้ ความคิดของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศเช่นผู้อื่นสันนิษฐานดังกล่าวมา แม้ท่านจะคิด