หน้า:ประวัติฯ ศรีสุริยวงศฯ - ดำรง - ๒๔๗๒.pdf/38

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๓๑

ค้างแรมอยู่เป็นอันมาก ฝ่ายข้าหลวงเดิมพระเจ้าอยู่หัว (คือ สมเด็จพระเชษฐาธิราช) กราบทูลยุยงเป็นความลับว่า เจ้าพระยากลาโหมสุริยวงศทำการครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก หากเอาการศพเข้ามาบังไว้ เห็นทีจะคิดประทุษฐร้ายต่อพระองค์เป็นมั่นคง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมิได้มีวิจารณ์ให้ถ่องแท้ ตกพระทัย ตรัสให้เหล่าชาวป้อมล้อมพระราชวังขึ้นประจำหน้าที่ แล้วเตรียมทหารไว้เป็นกอง ๆ จึงดำรัสให้ขุนมหามนตรีออกไปหาตัวเจ้าพระยากลาโหมสุริยวงศเข้ามา (เฝ้า)

ขณะนั้น จมื่นสรรเพ็ธภักดีสอดหนังสือลับออกไปก่อนว่า พระโองการให้หาเข้ามาดูมวย บัดนี้ เตรียมไว้พร้อมอยู่แล้ว เมื่อเจ้าคุณจะเข้ามานั้น ให้คาดเชือกเข้ามาทีเดียว ครั้นขุนมหามนตรีออกไปถึง กราบเรียนว่า พระโองการให้หา เจ้าพระยากลาโหมสุริยวงศแจ้งการซึ่งจมื่นสรรเพ็ธภักดีบอกให้สิ้นอยู่แล้ว จึงว่าขึ้นท่ามกลางขุนนางทั้งปวงว่า เราทำราชการกตัญญูแต่ครั้งพระพุทธเจ้าหลวงมา ท่านทั้งปวงก็แจ้งอยู่สิ้นแล้ว เมื่อพระพุทธเจ้าหลวงเสด็จสวรรคตแล้ว ถ้าเรารักซึ่งราชสมบัติ ท่านทั้งหลายเห็นจะพ้นเราเจียวหรือ ขุนนางทั้งปวงกราบแล้วจึงว่า ราชการทั้งปวงก็สิทธิ์ขาดอยู่แก่ฝ่าเท้ากรุณาเจ้าสิ้น ที่จะมีผู้ใดขัดแขงนั้น ข้าพเจ้าทั้งปวงก็ไม่เห็นมีตัวแล้ว เจ้าพระยากลาโหมสุริยวงศจึงว่า ท่านทั้งปวงจงเห็นจริงด้วยเราเถิด เรากตัญญูคิดว่าเป็นลูกเจ้าเข้าแดง จึงเป็นต้นคิดอ่านปรึกษามิให้เสียราชประเพณี ยกราชสมบัติถวาย แล้วยังหามีความดีไม่ ฟังแต่คำคนยุยง กลับจะมาทำร้ายเราผู้มีความชอบต่อแผ่นดินอีกเล่า ท่านทั้งปวงจะทำราชการต่อไปข้างหน้า จงเร่งคิดถึงตัวเถิด ขุนนางทั้งนั้น