หน้า:พระราชบัญญัติลักษณะเกณฑ์ทหาร ร.ศ. 124.PDF/6

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
วันที่ ๓ กันยายน ๑๒๔
เล่ม ๒๒ หน้า ๕๑๘
ราชกิจจานุเบกษา

 ข้อ  คนที่ต้องเรียกเข้าสังกัดกรมกองใดนั้นจะควรสักหมายข้อมือคนจำพวกใดประการใด หรือไม่ควรสักหมายคนจำพวกใด ให้เสนาบดีกระทรวงกระลาโหมวางกฎเปนข้อบังคับไว้

 ข้อ  ถ้ากรมทหารจะต้องการคนเกินอัตราเข้ารับราชการเปนจำนวนเท่าใดเมื่อใด ให้ฝ่ายทหารแจ้งต่อข้าหลวงกระลาโหม ให้เรียกคนส่งตามวิธีว่าไว้ในข้อ ๑ นั้น

 ข้อ  ในการเรียกระดมทหารด้วยประการใด ๆ ให้ฝ่ายทหารแจ้งต่อฝ่ายกระลาโหม ให้ฝ่ายเทศาภิบาลประกาศเรียกทหารเข้ามารับราชการ

หมวด ๗
ว่าด้วยปลดคนจากราชการทหาร


 มาตรา ๒๑ ในการที่จะปลดคนจากราชการทหารโดยย้ายประเภท เช่นปลดคนเปนกองหนุนต่าง ๆ ก็ดี หรือยกเว้นไม่ให้ต้องรับราชการทหารก็ดี ให้เปนหน้าที่ฝ่ายกระลาโหมและเทศาภิบาลพร้อมกันออกใบอนุญาต

หมวด ๘
ว่าด้วยโทษในการขัดขืนไม่เข้าเปนทหารตามพระราชบัญญัตินี้


 มาตรา ๒๒ ผู้ใดหลีกเลี่ยงขัดขืนโดยประการใด ๆ ที่จะไม่เข้ารับราชการทหารตามพระราชบัญญัตินี้ ผู้นั้นมีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ๓ ปี หรือปรับเปนเงินไม่เกิน ๑,๒๐๐ บาท หรือทั้ง ๒ สภาน ถ้าผู้ใดสมรู้เปนใจให้ผู้อื่นหลีกเลี่ยงขัดขืนตามที่กล่าวมาแล้ว ผู้นั้นมีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ๑๘ เดือน หรือปรับเปนเงินไม่เกิน ๖๐๐ บาท หรือทั้ง ๒ สถาน

 มาตรา ๒๓ ผู้ใดทำร้ายร่างกายตนเองโดยให้ผู้อื่นทำให้หรือทำเองก็ดีที่จะให้พ้นจากราชการทหารตามพระราชบัญญํตินี้ ผู้นั้นมีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ๘ ปี ส่วนผู้สมรู้เปนใจในการที่ผู้ใดกระทำร้ายตนเองตามที่กล่าวมาแล้วนี้ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ๔ ปี

หมวด ๙
ว่าด้วยการปกครอง


 มาตรา ๒๔ การปกครองทหารในท้องที่ซึ่งใช้พระราชบัญญัตินี้ให้เปน ๒ แพนก คือ ทหารที่อยู่ในกองประจำการหรือที่รับราชการอยู่ที่กรมและกองทหารโดยประการใด ๆ เช่นเวลาระดมหรือเวลาเข้ามาฝึกซ้อมวิธียุทธ์เปนต้น ให้อยู่ในบังคับบัญชาผู้บังคับบัญชาการทหารในท้องที่นั้น ส่วนทหารนอกจากที่กล่าวนี้ ให้อยู่ในความปกครองของข้าหลวงเทศาภิบาลเหมือนพลเมืองทั้งปวง

หมวด ๑๐
ว่าด้วยการรักษาพระราชบัญญัติ


 มาตรา ๒๕ ให้เสนาบดีกระทรวงกระลาโหมและเสนาบดีกระทรวงซึ่งได้ปกครองท้องที่เปนหน้าที่รักษาพระราชบัญญัตินี้ จำแนกตามข้อความอันอยู่ในหน้าที่ของกระทรวงนั้น ๆ และมีอำนาจออกกฎเสนาบดีวางระเบียบการให้การดำเนินไปตามพระราชบัญญัติ

 เมื่อกฎเสนาบดีได้รับพระบรมราชานุญาตประกาศในหนังสือราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้ถือว่าเปนส่วนหนึ่งในพระราชบัญญัตินี้

 พระราชบัญญัตินี้ตราไว้ตั้งแต่ณวันที่ ๒๙ สิงหาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๔ เปนวันที่ ๑๓๔๘๐ ในรัชกาลปัตยุบันนี้