หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๔๒

ทานบนไว้แล้วยกทัพไปตามพระราชกำหนด สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตรัศว่า ถ้าพระเจ้าหงษาวดีเลิกทัพไปทางเหนือดุจคำพระสุนทรสงครามว่านั้น ผู้ใดจะตาม จึงพระเจ้าลูกเธอ พระราเมศวร พระมหินทราธิราช กราบทูลว่า ข้าพระพุทธเจ้าทั้งสองขอยกตามตีทัพพระเจ้าหงษาวดีให้เปนบำเหน็จมือ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็บัญชาตาม.

 ครั้นณวัน ค่ำ เพลาสองยาม ถึงกำหนด พระเจ้าแปร พระยาพสิม พระยาละเคิ่ง พระยาเสี่ยง พระยาตองอู พระยาจิตรตอง ก็เลิกทัพเดินเปนกองน่า ทัพหลวงสมเด็จพระเจ้าหงษาวดีเดินเปนอันดับ แลทัพพระมหาอุปราชาก็เดินเปนกองหลัง พระมหาอุปราชาแต่งม้า ๕๐๐ ให้อยู่รั้งท้ายคอยเหตุ ถ้าเห็นทัพตามประมาณพันหนึ่ง ให้มาบอกม้าหนึ่ง ถ้าพลประมาณสองพัน ให้มาบอกสองม้า ถ้าพลประมาณสามพันสี่พันห้าพัน ก็ให้ไปบอกสามม้าสี่ม้าห้าม้าเปนกำหนด ฝ่ายทัพน่านำเดินตามคลองบางแก้วไปตามทิวทุ่งลำแม่น้ำใหญ่เพื่อรี้พลช้างม้าจะได้อาไศรยน้ำ.

 ครั้นเพลารุ่งเช้า ชาวพระนครรู้ว่า ทัพพระเจ้าหงษาวดีเลิกไป มุขมนตรีก็เอากิจจากราบทูลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า ทัพพระเจ้าหงษาวดีมิได้ยกไปทางเมืองกาญจนบุรี ไปทางแนวแม่น้ำใหญ่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ตรัศให้พระเจ้าลูกเธอทั้งสองพระองค์คุมทัพหมื่นหนึ่งยกตาม.

 จึงพระราเมศวร พระมหินทราธิราช ปฤกษากันว่า ซึ่งทัพล่าไปในวันหนึ่งสองวันนี้เห็นจะระวังหนัก จะคิดกองทัพรับเปนสามารถ อันจะรีบจู่โจมเข้าตีนั้น จะเอาไชยชำนะยาก จะค่อยสกดตามไปวันหนึ่งสองวันให้ประมาทลงก่อน ประการหนึ่ง จะได้จวนกระทบทัพสมเด็จพระมหา