หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๔๕

ก็เลิกหนีไปแล้ว สมเด็จพระเจ้าหงษาวดีดีพระไทย ก็เสด็จไปตั้งประทับแรมอยู่ณเมืองไชยนาท จึงให้เอาพระราเมศวร พระมหินทราธิราช เข้ามา แล้วตรัศว่า เจ้าทั้งสองสิเปนข้าศึกกับเรา บัดนี้ เราจับได้แล้ว จะคิดประการใดเล่า พระราเมศวร พระมหินทราธิราช กราบบังคมทูลว่า ข้าพระองค์นี้จนอยู่แล้ว จะฆ่าเสียก็จะตาย ถ้าพระองค์โปรดพระราชทานชีวิตรไว้ ก็จะรอด สมเด็จพระเจ้าหงษาวดีได้ฟังก็แย้มพระโอฐ แล้วตรัศให้พระมหาอุปราชาเอาพระราเมศวร พระมหินทราธิราช ไปคุมไว้.

 ฝ่ายนายทัพนายกองซึ่งแตกจากทัพพระราเมศวร พระมหินทราธิราช กลับไปพระนคร เอาเหตุกราบทูล สมเด็จพระมหาจักรพรรดิราชาธิราชเจ้าได้ทรงทราบดังนั้น ก็ตกพระไทยโทมนัศถึงสมเด็จพระโอรสทั้งสองพระองค์นัก แล้วแต่งพระราชสาสนให้พระครูปโรหิต ขุนหลวงพระเกษม ขุนหลวงพระไกรสี ถือมาทางเรือขึ้นไปถึงเมืองไชยนาท ท้าวพระยารามัญนำเข้าเฝ้าทูลถวายพระราชสาสนแด่พระเจ้าหงษาวดี แลในลักษณนั้นว่า พระราชสาสนสมเด็จพระมหาจักรพรรดิราชาธิราชเจ้าพระนครศรีอยุทธยาขอจำเริญทางพระราชไมตรีมายังสมเด็จพระเจ้าหงษาวดีผู้มีอิศรภาพใหญ่ยิ่งกว่าขัติยราชกระษัตริย์สามนต์ในชมพูทวีป ด้วยพระองค์ยกพยุหโยธาทัพมากระทำยุทธนาการกับพระนครศรีอยุทธยาเปนที่สำเริงราชหฤไทยในบรมกระษัตราธิราชโดยขัติยประเพณี แลเลิกทัพกลับโดยปรกติมิได้พ่าย ฝ่ายราชโอรสแห่งข้ามิได้รู้ในเชิงพิไชยยุทธยกติดตามมาตี กองทัพพระองค์จับไว้ได้นั้น โอรสทั้งสองถึงซึ่งปราไชยอยู่แล้ว อุประมา