หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๔๘

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ พระราเมศวร พระมหินทราธิราช กับมุขมนตรี พร้อมกันปฤกษากราบทูลว่า จะให้ไปรับหัวเมืองนั้น ถ้ารับได้ ก็จะเปนคุณ ถ้ารับมิได้ ข้าศึกจะอาไศรย ให้รื้อกำแพงเสียดีกว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็บัญชาตาม แล้วให้ตั้งพิจารณาเลขสังกัดสมพรรค์ ได้สกรรจ์ลำเครื่องแสนเศษ.

 ศักราช ๙๐๖ ปีมโรง ฉศก ฝ่ายพระศรีศิลป์ผู้น้องพระแก้วฟ้าพระองค์เอามาเลี้ยงไว้จนอายุได้สิบสามปีสิบสี่ปี จึงให้ออกบวชเปนสามเณรอยู่ณวัดราชประดิษฐาน พระศรีศิลป์มิได้ตั้งอยู่ในกตัญญู ซ่องสุมพวกพลคิดการกระบถ ครั้นทราบจึงดำรัศสั่งเจ้าพระยามหาเสนาให้จับเอาตัวพระศรีศิลป์มาพิจารณาได้ความเปนสัจ หาให้ประหารชีวิตรเสียไม่ ให้แต่คุมเอาตัวไว้ณวัดธรรมิกราช หมื่นจ่ายวดเปนผู้คุม ครั้นจวนเข้าพระวัสสา ทรงพระมหากรุณาตรัศว่า พระศรีศิลป์ซึ่งเปนโทษคุมไว้นั้นอายุจะได้อุปสมบทเปนภิกษุภาวอยู่แล้ว ให้เอามาอุปสมบท จึงทราบว่า พระศรีศิลป์หนีก่อนนั้นถึงสามวันไปซุ่มพลอยู่ณม่วงมดแดง ทรงพระกรุณาดำรัศให้เจ้าพระยามหาเสนาไปตาม ฝ่ายพระศรีศิลป์ให้ไปขอฤกษ์พระพนรัตนป่าแก้ว ๆ ก็ให้ฤกษ์ว่า ณวัน ค่ำ ฤกษ์ดี ให้ยกเข้ามาเถิด แลพระยาเดโช พระยาท้ายน้ำ พระยาพิไชยรณฤทธิ์ หมื่นภักดีศวร หมื่นไภยนรินทร์ ซึ่งเปนโทษอยู่ก่อน จำไว้ในที่สงัด ให้หนังสือลับออกไปในวันแรมสิบสามค่ำถึงพระศรีศิลป์ว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตรัศว่า รุ่งขึ้น สิบสี่ค่ำ จะเอาข้าพเจ้าทั้งห้าคนไปฆ่าเสีย ขอให้พระองค์เข้ามาแต่ในกลางคืนวันนี้ อย่าให้ทันรุ่ง พระศรีศิลป์ก็เข้ามาทางประตูหอรัตนไชย เจ้าพระยามหาเสนารู้ว่า พระศรีศิลป์ยกเข้ามา ก็ตาม