หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๔๕

ช่วยค่ายลักไวทำมูแลทหารทศตำบลลุมพลี ถ้าพระนเรศวรออกมาตีค่าย ให้กุมเอาเปนจงได้ สมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้าทรงม้าพระที่นั่งออกไป ทหารสามกองกับล้อมวังพันหนึ่ง ถือโตมรแลดาบดั้งออกไป ได้รบพุ่งกันแต่เพลาเช้าสามโมงจนสี่โมง ข้าศึกแตกเข้าไปอยู่สักครู่หนึ่ง กลับเอาม้าสามสิบออกมายั่วทัพ จึงแต่งเปนปีกฉะนางแลกองซุ่มไว้ ปีกหนึ่งลักไวทำมู ปีกหนึ่งทหารทศ สมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้าทรงม้ารำทวนไล่ข้าศึกเข้าไป แลข้าศึกสองปีกหุ้มพระองค์แลทหารเข้าไว้ ลักไวทำมูถือดาบดั้งเข้ามาจะกุมเอาพระองค์ ๆ ทรงแทงด้วยพระแสงทวนถูกลักไวทำมู ๆ ฟันต้องพระแสงทวนเปนแผล แต่ลักไวทำมูตาย ทหารทศถือโตมรแลหอกใหญ่ตรงเข้ามา ทรงฟันด้วยพระแสงดาบสพายแล่งล้มลง ก็เสด็จกลับเข้าพระนคร สมเด็จพระเจ้าหงษาวดีให้เข้ามาตีค่ายชาวพระนครถึงสองครั้งสามครั้งก็มิได้แตกฉาน จึงตรัศว่า จวนเทศกาลฟ้าฝนน้ำนองอยู่แล้ว ก็สั่งให้เลิกทัพเสด็จกลับคืนไปเมืองหงษาวดี.

 ครั้นศักราช ๙๔๐ ปีขาล สำเรทธิศก ณวัน ๑๓ ค่ำ สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชเจ้าทรงพระประชวร ครั้นณวัน ๑๒ ค่ำ เสด็จสวรรคต พระชนม์ได้ ๗๖ พระพรรษา อยู่ในราชสมบัติ ๒๓ ปี.

แผ่นดินสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ ๒ (พระนเรศวรมหาราช)

 สมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้า พระชนม์ได้ ๓๕ พระพรรษา ขึ้นเสวยราชสมบัติ ดำรัศให้สมเด็จพระอนุชาเปนพระมหาอุปราช แล้วแต่งการถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระราชบิดาเสร็จแล้ว สมเด็จพระ

๑๐