หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๕๗

คอยฤกษ์ ทอดพระเนตรเห็นมหาเมฆตั้งขึ้นมาแต่ทิศพายัพ แล้วกลับเกลื่อนคืนกระจายอันดรธานไป พระสุริยเทวบุตรจรัสแจ่มดวงในนภาดลอากาศ พระมหาราชครูพระครูปโรหิตาจารย์โหราธิบดีลั่นฆ้องไชยดำเนินธง พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวก็เสด็จทรงช้างต้นเจ้าพระยาไชยานุภาพเปนพระคชาธาร สมเด็จเอกาทศรฐอิศวรบรมนารถราชอนุชาเสด็จทรงช้างต้นเจ้าพระยาปราบไตรจักรเปนพระคชาธาร พลทหารก็โห่สนั่นบันฦๅศัพท์แตรสังข์เสียงประโคมฆ้องกลองชนะกลองศึกสท้านสเทือนประหนึ่งแผ่นดินจะไหว สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ยาตราพระคชาธารเปนบทย่างสะเทินมาบ่ายน่าต่อข้าศึก เจ้าพระยาไชยานุภาพ เจ้าพระยาปราบไตรจักร ได้ยินเสียงพลแลเสียงฆ้องกลองศึกอึงคนึง ก็เรียกมันครั่นครื้นกางหูชูหางกิริยาป่วนเดินเปนบาทย่างใหญ่เร็วไปด้วยกำลังน้ำมัน ช้างท้าวพระยามุขมนตรีแลโยธาหาญซ้ายขวาน่าหลังนั้นตกลงไปมิทันเสด็จ พระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ใกล้ทัพน่าข้าศึก ตรัศทอดพระเนตรเห็นพลพม่ารามัญยกมานั้นเต็มท้องทุ่งเดินดุจคลื่นในพระมหาสมุท พลข้าศึกไล่พลชาวพระนครมาครั้งนั้นสลับซับซ้อนกันมิได้เปนกระบวน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ก็ขับพระคชาธารเข้าโจมแทงช้างม้ารี้พลปรปักษ์ไล่ส่ายเสยถีบฉัดตลุมบอน พลพม่ารามัญล้มตายเกลื่อนกลาด ช้างข้าศึกได้กลิ่นน้ำมันพระคชาธารก็หกหันตลบปะกันไปเปนอลหม่าน พลพม่ารามัญก็โทรมยิงธนูน่าไม้ปืนไฟรดมเอาพระคชาธารสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ แลธุมาการก็ตระหลบมืดเปนหมอกมัวไปมิได้เห็นกันประจักษ์ พระบาทสมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้าจึงตรัศประกาศ