หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๕๘

แก่เทพยดาทั้งปวงว่า ให้บังเกิดมาในประยุรมหาเสวตรฉัตร จะให้บำรุงพระบวรพุทธสาสนา ไฉนจึงมิช่วยให้สว่างแลเห็นข้าศึกเล่า พอตกพระโอฐลง พระพายก็พัดควันอันเปนหมอกมืดนั้นสว่างไป ทอดพระเนตรเห็นช้างเสวตรฉัตร ๑๖ ช้าง มีช้างดั้งช้างกันยืนอยู่เปนอันมาก แต่มิได้เห็นพระมหาอุปราชา ครั้นเหลือบไปฝ่ายทิศขวาพระหัดถ์ ก็เห็นช้างเสวตรฉัตรช้างหนึ่งยืนอยู่ณฉายาไม้ข่อย มีเครื่องสูงแลทหารน่าช้างมาก ก็เข้าพระไทยถนัดว่า ช้างพระมหาอุปราชา พระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ก็ขับพระคชาธารตรงเข้าไป ทหารน่าช้างข้าศึกก็วางปืนจ่ารงค์มณฑกนกสับตระแบงแก้วรดมยิง มิได้ต้องพระองค์แลพระคชาธาร สมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้าตรัศร้องเรียกด้วยพระสุรเสียงอันดังว่า พระเจ้าพี่เรา จะยืนอยู่ไยในร่มไม้เล่า เชิญออกมาทำยุทธหัตถีด้วยกันให้เปนเกียรติยศไว้ในแผ่นดินเถิด ภายน่าไปไม่มีกระษัตริย์ที่จะได้ยุทธหัตถีแล้ว พระมหาอุปราชาได้ฟังดังนั้น ลอายพระไทย มีขัติยราชมานะ ก็บ่ายน่าพระคชาธารออกมารับ เจ้าพระยาไชยานุภาพเห็นช้างข้าศึก ก็เร็วไปด้วยฝีน้ำมันมิทันยั้งเสียที พลายพัทกอได้ล่างแบกรุนมา พระมหาอุปราชาจ้วงฟันด้วยพระแสงของ้าว สมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้าเบี่ยงพระมาลารับ พระแสงของ้าวมิได้ต้องพระองค์ เจ้าพระยาไชยานุภาพสบัดลงได้ล่างแบกถนัด พลายพัทกอเพลี่ยงเบนไป สมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้าได้ทีจ้วงฟันด้วยพระแสงพลพ่ายต้องพระอังสาเบื้องขวามหาอุปราชาตลอดลงมาจนปัจฉิมุราประเทศซบลงกับฅอช้าง แลนายมหานุภาพควาญพระคชาธารพระนเรศวรเปนเจ้านั้นต้องปืนข้าศึกตาย ขณะเมื่อสมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้าชนช้างด้วยพระมหาอุปราชา