หน้า:พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา ภาค ๑ (๒๔๕๕) b.pdf/218

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๕๙

เจ้านั้น เจ้าพระยาปราบไตรจักรซึ่งเปนพระคชาธารสมเด็จเอกาทศรฐเข้าชนด้วยพลายพัชเนียงช้างมางจาชโร เจ้าพระยาปราบไตรจักรได้ล่าง พลายพัชเนียงเสียทีแปรไป สมเด็จเอกาทศรฐจ้วงฟังด้วยพระแสงของ้าวต้องฅอมางจาชโรขาดตายกับฅอช้าง หมื่นภักดีศวรกลางช้างสมเด็จเอกาทศรฐนั้นต้องปืนข้าศึกตาย ขณะเมื่อสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ทำคชสงครามได้ไชยชำนะพระมหาอุปราชาแลมางจาโชร แลบรรดาท้าวพระยามุขมนตรีนายทัพนายกองซ้ายขวาน่าหลังทั้งปวงขึงมาทันเสด็จ ได้เข้ารบพุ่งแทงฟันข้าศึกเปนสามารถ แลพลพม่ามอญทั้งนั้นก็แตกกระจัดกระจายไป เพราะพระเดชเดชานุภาพ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตรัศให้นายทัพนายกองทั้งปวงยกไปตามจับข้าศึกแล้วเสด็จคืนมายังพลับพลา พระราชทานชื่อเจ้าพระยาไชยานุภาพเปนเจ้าพระยาปราบหงษา บรรดามุขมนตรีนายทัพนายกองซึ่งยกตามข้าศึกไปนั้นได้ฆ่าฟันพม่ามอญโดยทางไปถึงกาญจนบุรี อาศพเกลื่อนไปแต่ตะพังตรุนั้นประมาณสองหมื่นเศษ จับได้เจ้าเมืองมล่วนแลนายทัพนายกองกับไพร่เปนอันมาก ได้ช้างใหญ่สูงหกศอกสามร้อย ช้างพลายพังรวางเพรียวห้าร้อย ม้าสองพันเศษ มาถวาย สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวตรัศให้ก่อพระเจดียฐานสวมศพพระมหาอุปราชาไว้ตำบลตะพังตรุ ขณะนั้น โปรดพระราชทานช้าง ๆ หนึ่งกับหมอแลควาญให้เจ้าเมืองมล่วนขึ้นไปแจ้งแก่พระเจ้าหงษาวดี พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ก็เสด็จคืนเข้าพระนครแล้วดำรัศว่า เจ้ารามราคพกลางช้างกับขุนศรีคชคงควาญซึ่งได้ผจญข้าศึกจนมีไชยชำนะด้วยพระองค์นั้น ก็ปูนบำเหน็จพระราชทานยศถาศักดิ์เครื่องอุปโภค