หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๕๓

พระศรีสมรรถไชย ไกรสรมุขพิมานไชย ไกรจักรรัตน แลเรือพระครุธพาหนะ เรือไชย เรือรูปสัตวทั้งปวง แลเรือสิงโตอินทรีย์ เรือหัศดินทร์ เรือนรสิงห์ แลเรือจากพราก แลเรือแซทองพิฆาฎทอง แลเรือเลาคาอันได้มาแต่เมืองหงษาวดี แลตกแต่งเรือต้นทั้งปวงอันอลงกฎรจนาโอภาศพรรณรายโดยอันดับต้นเชือกแลปลายเชือก แลพลฝีพายทั้งปวงนั้นประดับด้วยเครื่องอาภรณ์เสื้อทองหมวกทองพายทอง แล้วก็ให้แต่งเรือจำนำท้าวพระยาสามนตราชเสนาบดีมนตรีมุขลูกขุนทั้งหลายหมายเปนอาทิคือ ราชสีห์ คชสีห์ แลเรือไชยท้าวพระยาสวรรคโลก กำแพงเพ็ชร ศุโขไทย แลเรือไชยจตุสดมภ์ แลเหนือน้ำ ท้ายน้ำ แลเรือจำนำขุนช้าง ขุนม้า ขุนตำรวจ ขุนดาบ ขุนการทหารพลเรือนทั้งปวง ก็ให้ตรวจตราเปนคู่แข่งแต่งเปนคู่ขันต่าง ๆ ครั้นถึงทิพพารกาลพระราชพิธีอาศวยุช ก็ให้ประดับพระที่นั่งอรรณพด้วยเครื่องอลงการมเหาฬารพิจิตรโอภาศชัชวาลแลจามรทั้งปวง จึ่งให้เอาพระครุธพาหนะอันรจนาประดิษฐานพระพิศวกรรม์ออกตั้งฉาน แลให้พระราชครูทั้ง ๔ กระทำการพระราชพิธีอาศวยุช จึ่งให้ตั้งเรือแห่แลให้เทียบเรือต้นแลเรือแข่งทั้งปวงตามขบวน จึ่งให้เบิกพระราชกุมาร แลพระราชนัดดา แลท้าวพระยาสามนตราชมหาเสนาบดีทั้งปวง มาประชุมในน่าพระที่นั่งอรรณพ แลให้เบิกทูตานุทูตอันมาแต่เมืองตองอูแลเมืองล้านช้างนั้นมาถวายบังคม แลให้เบิกพระสังฆราชคามวาสีอรัญวาสีแลพระสงฆ์สบสังวาสขึ้นนั่งในธรรมาศน์ที่จะถวายพระพรนั้นเสร็จ พระบาทสมเด็จบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวก็เสด็จด้วยพระราเชนทรยานมายังพระที่นั่งอรรณพ จึ่งตีอินทเภรีเปนประถม พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวก็เสด็จ