หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๒

เสี่ยงวจีสัตยาธิษฐานอันข้าพระพุทธเจ้าอุทิศเทียนสองเล่มนี้เปนพุทธสักการบูชาแลเสี่ยงกระทำด้วยสัจจเคารพนี้เถิด ครั้นอธิษฐานเสร็จแล้ว ก็จุดเทียนทั้งสองเล่มนั้นเข้า ฝ่ายขุนพิเรนทรเทพไปถึง เห็นเทียนขุนวรวงษาธิราชยาวกว่าเทียนพระเทียรราชาก็โกรธ จึงว่า ห้ามมิให้ทำสิขืนทำเล่า ก็คายชานหมากดิบทิ้งไป จะได้ตั้งใจทิ้งเอาเทียนขุนวรวงษาธิราชนั้นหามิได้ เปนศุภนิมิตรเหตุ พอไปต้องเทียนขุนวรวงษาธิราชดับลง คนทั้งห้าก็บังเกิดโสมนัศยินดียิ่งนัก ขณะนั้น มีพระสงฆ์องค์หนึ่งครองไตรจีวรครบถือตาลิปัตรเดินเข้าไปในพระอุโบสถให้พรว่า ท่านทั้งนี้จะได้สำเร็จมโนรถความปราถนาเปนแท้ ทั้งห้าคนก็นมัสการรับพร พระสงฆ์นั้นกลับออกมาก็หายไป ต่างคนก็กลับมายังที่อยู่ ครั้นประมาณสิบห้าวัน กรมการเมืองลพบุรีบอกลงมาว่า ช้างพลายสูงหกศอกสี่นิ้วหูหางสรรพต้องลักขณติดโขลง สมุหนายกกราบทูล ตรัศว่า เราจะขึ้นไปจับ อยู่อิกสองวันจะเสด็จ แล้วสั่งให้มีตราขึ้นไปให้กรมการจับเสียเถิด ครั้นอยู่มาประมาณเจ็ดวัน โขลงชักปกเถื่อนเข้ามาทางวัดแม่นางปลื้มเข้าเพนียดวัดช่องลม สมุหนายกกราบทูล ตรัศว่า พรุ่งนี้ เราจะไปจับ ครั้นเพลาค่ำ ขุนพิเรนทรเทพจึงสั่งหมื่นราชเสน่หานอกราชการให้ออกไปคอยทำร้ายมหาอุปราชอยู่ที่ท่าเสือ สั่งแล้วพอพระยาพิไชย พระยาสวรรคโลก ลงมาถึง ขุนพิเรนทรเทพจึงให้ไปบอกโดยความลับ พระยาพิไชย พระยาสวรรคโลก ก็ดีใจ จึงไปซุ่มอยู่ที่คลองบางปลาหมอกับด้วยขุนพิเรนทรเทพ หลวงศรียศ หมื่นราชเสน่หาในราชการ ขี่เรือคนละลำ พลพายมีสาตราวุธครบมือ ฝ่ายหมื่นราชเสน่หานอกราชการถือปืนไปแอบคอยอยู่ทำอาการดุจหนึ่ง