หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๙

จะเข้าหักเมืองโดยศุภอักษรพระยาแลวก ครั้นถ้วนกำหนด ๓ วัน พระยาแลวกก็นำเครื่องราชบรรณาการ กับนักพระสุโท นักพระสุทัน อันเปนราชบุตร ออกมาเฝ้าทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเปนข้าพระบาท สมเด็จพระมหาจักรพรรดิราชาธิราชเจ้าก็สิ้นความพิโรธ จึงตรัศแก่พระยาแลวกว่า ท่านจงรักษากรุงกัมพูชาธิบดีโดยยุติธรรมราชประเพณีสืบมาแต่กาลก่อนนั้นเถิด แล้วพระเจ้าอยู่หัวตรัศว่า นักพระสุโท นักพระสุทัน นี้ เราจะขอไปเลี้ยงเปนโอรส พระยาแลวกมิอาจที่จะขัดได้ ก็ให้โดยบัญชาพระเจ้าอยู่หัว แล้วพระยาแลวกก็ถวายบังคมลาพระเจ้าอยู่หัวเข้าไปเมือง จัดแจงเครื่องราชูประโภคชายหญิงให้แก่ราชบุตร แล้วก็พามาถวายกราบทูลฝาก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตรัศว่า ท่านอย่าวิตกเลย อันบุตรท่านทั้งสองนี้ก็เหมือนโอรสแห่งเรา พระยาแลวกมีความยินดีนัก ให้เสนาบดีไปต้อนครัวอพยพชาวปราจิณบุรีมาส่งยังค่ายหลวง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็เสด็จยกกองทัพบกทัพเรือแลครัวอพยพทั้งนั้นกลับมายังกรุงเทพพระนครศรีอยุทธยา จึงทรงพระกรุณาให้นักพระสุทันขึ้นไปครองเมืองสวรรคโลก.

 ศักราช ๘๙๕ ปีมเสง เบญจศก ครั้งนั้น พระเจ้าอยู่หัวแปลงเรือแซเปนเรือไชยแลเรือศีศะสัตวต่าง ๆ.

 ศักราช ๘๙๖ ปีมเมีย ฉศก เดือน ๘ ทำการพระราชพิธีมัธยมสมเด็จพระมหาจักรพรรดิราชาธิราชเจ้าตำบลไชยนาทบุรี.

 ศักราช ๘๙๗ ปีมแม สัปตศก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จไปวังช้างตำบลบางลมุง ได้ช้างพลายพัง ๖๐ ช้าง อนึ่ง ในเดือน ๑๒ นั้น ได้ช้างเผือกพลายตำบลกาญจนบุรีสูง ๔ ศอกเศษ ให้ชื่อ พระคเชนทโรดม.