หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๓๘

 ฝ่ายสมเด็จพระมหาธรรมราชาแจ้งข่าวขึ้นไปว่า กองทัพสมเด็จพระเจ้าหงษาวดีมาติดพระนครศรีอยุทธยา ก็เกณฑ์ทัพเมืองพระพิศณุโลก เมืองสวรรคโลก เมืองศุโขไทย เมืองพิไชย เมืองพิจิตร เปนคนห้าหมื่น ลงมาถึงเมืองไชยนาทบุรี ตั้งค่ายมั่นสองฝั่งฟาก แต่งกองร้อยลงมาสืบถึงแขวงสิงคบุรี พอพบสมิงจะคราน สมิงมะลุมคุม ทัพสามพัน ไปลาดหาเสบียง กองร้อยชาวพระพิศณุโลกเห็นรามัญมากกว่าก็วิ่งหนี พวกรามัญเอาม้าไล่สะพัด จับได้สองคนคุมตัวลงมาถวาย สมเด็จพระเจ้าหงษาวดีตรัศถามนายมั่นปืนยาว นายคงหนวด ให้การกราบทูลว่า สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชผู้ครองเมืองพระพิศณุโลกแจ้งขึ้นไปว่า ทัพกรุงหงษาวดีมาติดพระนครศรีอยุทธยา จึงยกพลเมืองพระพิศณุโลก เมืองสวรรคโลก เมืองศุโขไทย เมืองพิไชย เมืองพิจิตร เปนคนห้าหมื่น ลงมาช่วยตีกระหนาบ บัดนี้ มาตั้งอยู่ไชยนาทบุรี แต่งให้พันโจมจัตุรงค์ พันยงใจหาญ คุมข้าพเจ้า คนร้อยหนึ่ง มาสืบทัพ สมเด็จพระเจ้าหงษาวดีแจ้งดังนั้นก็แย้งพระโอฐแล้วตรัศว่า อ้ายสองคนนี้ให้โกนศีศะเสียปล่อยขึ้นไปให้ทูลพระมหาธรรมราชาว่า ซึ่งจะลงมาเปนทัพกระหนาบนั้น เราคอยอยู่ ถ้ามิลงมา ก็ให้มั่นไว้ จะขึ้นไปหา สมิงจะคานรับสั่งสมเด็จพระเจ้าหงษาวดี ก็เอานายมั่นปืนยาว นายคงหนวด ไปโกนศีศะ แล้วก็คุมขึ้นไปปล่อยถึงแขวงเมืองสิงคบุรี นายมั่น นายคง ก็ขึ้นไปถึงเมืองไชยนาท ให้ขุนนางนำเฝ้ากราบทูลเนื้อความซึ่งสมเด็จพระเจ้าหงษาวดีสั่งมานั้นให้ทราบทุกประการ สมเด็จพระมหาธรรมราชาตรัศถามว่า เองเข้าไปถึงสมเด็จพระเจ้าหงษาวดีนั้น เห็นรี้พลประมาณเท่าใด นายมั่นปืนยาว นายคงหนวด กราบทูลว่า