หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๓
สองเต้าห้อยตุงดังถุงตะเคียว | โคนเหี่ยวแห้งรวบเหมือนบวบต้ม | |
เสวยสลายาจุกพระโอษฐ์อม | มันน่าเชยน่าชมนางเทวี | |
ฯ ๖ คำ ฯ | ||
ร่าย | ||
๏ นี่จะเป็นลูกสาวท้าวพระยา | ฤๅว่าเป็นพระมเหสี | |
อกใจทึกทักรักเต็มที | ก็ทรงสีซอสุวรรณขึ้นทันใด | |
ฯ ๒ คำ ฯ | ||
พัดชา | ||
๏ ยักย้ายร่ายร้องเป็นลำนำ | มีอยู่สองสามคำจำไว้ได้ | |
สุวรรณหงษ์ถูกหอกอย่าบอกใคร | ถูกแล้วกลับไปได้เท่านั้น | |
ฯ ๒ คำ ฯ | ||
ร่าย | ||
๏ แล้วซ้ำสีอิกกระดิกนิ้ว | ทำยักคิ้วแลบลิ้นเล่นขบขัน | |
เห็นโฉมยงหัวร่ออยู่งองัน | พระทรงธรรม์ทำหนักชักเฉื่อยไป | |
ฯ ๒ คำ ฯ มโหรี | ||
๏ เมื่อนั้น | นางประแดะตานีศรีใส | |
สดับเสียงสีซอพอฤทัย | ให้วาบวับจับใจผูกพัน | |
ยิ่งคิดพิศวงพระทรงศักดิ์ | ลืมรักท้าวประดู่ผู้ผัวขวัญ | |
ทำไฉนจะได้พระทรงธรรม์ | มาเคียงพักตร์สักวันด้วยรักแรง | |
คิดพลางทางเข้าไปในห้อง | แล้วตักเอาข้าวกล้องมาสองแล่ง | |
ค่อยประจงลงใส่กระบะแดง | กับปลาสลิดแห้งห้าหกตัว | |
แล้วลงจากบันไดมิได้ช้า | เข้ามานอบนบจบเหนือหัว | |
เอาปลาใส่ย่ามด้วยความกลัว | แล้วยอบตัวลงบังคมก้มพักตรา | |
ฯ ๘ คำ ฯ | ||
๏ เมื่อนั้น | ลันไดให้แสนเสนหา | |
อะรามรักยักคิ้วหลิ่วตา | พูดจาลดเลี้ยวเกี้ยวพาน | |
ฯ ๒ คำ ฯ |