หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๖๒
ให้รูปงามทรามชมอุดมดี | ลางสตรีปรารถนาหาขุนนาง | |
มีเงินทองบ่าวไพร่เครื่องใช้สอย | จะนั่งลอยนวลสบายนุ่งลายย่าง | |
ขี่แต่เรือเก๋งพั้งลงนั่งกลาง | ไปตามทางแถวชลที่คนพาย | |
ที่ติดพันกันอยู่ก็ชูชื่น | ไม่นึกอื่นนึกมีแต่ที่หมาย | |
ที่มีแล้วฉ่ำเฉื่อยเรื่อยสบาย | ค่อยเว้นวายโศกเศร้าเบาหัวใจ | |
กระทำมาหากินภิญโญยิ่ง | มีลูกหญิงลูกชายหมายอาศัย | |
ที่ไม่มีฝั่งฝาให้อาลัย | เหมือนกับใจของฉันที่พรรณนา | |
คิดถึงนุชสุดที่รักให้หนักอก | น้ำตาตกพรั่งพรายทั้งซ้ายขวา | |
สักเมื่อไรจะได้แนบแอบอุรา | ละห้อยหาโศกศัลย์รำพันคราง | |
ถึงเดือนแปดแดดอับพยับฝน | ฤดูดลพระวสาเข้ามาขวาง | |
จวนจะบวชเป็นพระสละนาง | อยู่เหินห่างเห็นกันเมื่อวันบุญ | |
ประดับพุ่มบุปผาพฤกษากระถาง | รูปแรดช้างโคควายขายกันวุ่น | |
ตุ๊กตาหน้าพราหมณ์งามละมุน | ต้นพิกุลลิ้นจี่ดูดีจริง | |
ต้นไม้ทองเสาธงหงส์ขี้ผึ้ง | คู่ละสลึงเขาขายพวกชายหญิง | |
อุณรุทยุดกินนรชะอ้อนพริ้ง | มีทุกสิ่งซื้อมาบูชาพระ | |
ขึ้นกุฎีที่รักรู้จักสนิท | ดัดจริตพูดจาวิสาสะ | |
พระหนุ่มหนุ่มกลุ้มใจทำไมละ | เสียงจ๋าจ๊ะเจรจาพาสบาย | |
ถ้าญาติโยมจริงจริงแล้วนิ่งเฉย | มิใคร่เงยดูหน้าปัญญาหาย | |
ไม่พูดมากพาดพิงให้พริ้งพราย | ดูเราะรายเรียบร้อยกระช้อยชด | |
พรรษาหนึ่งสองพรรษาไม่ผาสุก | เข้าบ้านกรุกเลยลาสิกขาบท | |
เหมือนน้ำอ้อยย้อยถูกจมูกมด | ใครจะอดได้เล่าพวกชาวเรา | |
นึกคะนึงถึงนางกลางพรรษา | แต่คอยหาเช้าเย็นไม่เห็นเขา |