หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๖๘
ผูกสายสร้อยกบข้อมือลือว่ามี | ทุกวันนี้นับถือข้อมือทอง | |
บ้างก็ไปวัดวาหาหลวงพี่ | ขึ้นกุฎีน้อมกายถวายของ | |
ใครไม่รู้ดูทีเหมือนพี่น้อง | เขาแอบมองลอบดูรู้อุบาย | |
ธรรมดาว่ารักเขามักรู้ | เพราะตาหูบอกเหตุสังเกตุง่าย | |
จะเจรจาพาทีมีแยบคาย | ใครอย่าหมายว่าจะปิดไม่มิดเลย | |
เช่นทำนองของฉันทุกวันเล่า | เขารู้เท่าทัง้นั้นฉันก็เฉย | |
โอ้โอ๋อกชายที่หมายเชย | ยังไม่เคยแล้วยิ่งคิดจิตระบม | |
สิบเดือนถ้วนครวญหามารศรี | มิได้มีความสบายเท่าปลายผม | |
เฝ้าคิดถึงสาลิกาป่าชะอม | น้ำค้างพรมพรั่งพราวหนาวหัวใจ | |
ไม่เห็นมาเยี่ยมเยือนจนเดือนยี่ | เจ้าปักษีโบกบินไปกินไหน | |
สุริยาอัสดงลงไรไร | โอ้อาลัยสาลิกาน้ำตานอง | |
โฉมยุพินกินรีเจ้าพี่เอ๋ย | เมื่อไรเลยจะได้ชมประสมสอง | |
ดูผิวเหลืองเรืองดีดังสีทอง | ได้ประคองแล้วจะชื่นทุกคืนวัน | |
ดอกโกมุทบุษบามณฑาทิพ | วิไลลิบลอยล่องของสวรรค์ | |
ถ้าหล่นลงตรงพี่จะดีครัน | คงลือลั่นโลกาสุธาสะเทือน | |
แม่ดวงแก้วนพเก้าเสาวภาค | พี่ฝังฝากรักใคร่ใครจะเหมือน | |
ให้หมกมุ่นวุ่นวายมาหลายเดือน | สติเฟือนคลั่งไคล้ในใจตรม | |
ถึงเดือนสามความโศกไม่เสื่อมสูญ | จันทร์จำรูญแสงงามยามปฐม | |
ดารารายพรายพร่างน้ำค้างพรม | พี่นั่งชมจันทร์เพ็งเปล่งโพยม | |
ดูแวววับเวหาล้วนดาเรศ | เหมือนดวงเนตรนุชนางสำอางโสม | |
ดูกระพริ้มริมแดงดังแสงโคม | ลอยโพยมล้อมจันทร์พรรณราย | |
พี่นั่งชมตรมตรึกดึกสงัด | น้ำค้างหยัดเยือกเย็นกระเซ็นสาย | |
บุปผาเผยกลิ่นก้านบานกระจาย | ต้องพระพายหอมประทิ่นเหมือนกลิ่นนาง |