หน้า:อนุสัญญาเจนีวา (อทร.).pdf/18

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร

หลักฐานจะได้จัดส่งไปเป็นห่อ ปิดผนึกประทับตราพร้อมด้วยบันทึกรายการอันจำเป็นเพื่อทราบรูปพรรณสัณฐานของเจ้าของผู้เสียชีวิตได้ และบัญชีแสดงสิ่งของที่บรรจุไว้ในห่อนั้นโดยครบถ้วนด้วย

ข้อ ๑๗

ภาคีคู่พิพาทจะต้องจัดให้มีการชันสูตรศพอย่างรอบคอบและถ้าเป็นไปได้ก็ให้มีการชันสูตรศพทางการ แพทย์ในแต่ละรายเท่าที่สถานการณ์จะอํานวยให้ก่อนที่จะฝังหรือเผาศพ ตั้งนี้เพื่อให้สามารถยืนยันการเสียชีวิตจัดทํารูปพรรณสัณฐานผู้เสียชีวิตและเพื่อทํารายงานขึ้นได้ ซีกหนึ่งของแผ่นโลหะแสดงรูปพรรณสัณฐานชนิดคู่หรือแผ่นโลหะทั้งอันถ้าเป็นโลหะชนิดเดี่ยว ให้คงเหลือติดไว้กับตัวผู้เสียชีวิต

ห้ามมิให้ทําการเผาศพ นอกจากจะมีเหตุผลทางอนามัยบังคับหรือโดยเหตุผลทางศาสนาของผู้เสียชีวิตเท่านั้น ในกรณีที่มีการเผาจะต้องแจ้งพฤติการณ์และเหตุผลที่ต้องทําการเผาไว้โดยละเอียดในมรณบัตรหรือบัญชีรายนามผู้เสียชีวิตอันรับรองว่าถูกต้องแล้ว

นอกจากนี้ภาคีคู่พิพาทจะต้องจัดให้ผู้เสียชีวิตได้รับการฝังอย่างมีเกียรติ ถ้าเป็นไปได้ให้เป็นไปตามพิธีศาสนาของผู้เสียชีวิต ให้หลุมฝังศพของผู้เสียชีวิตเหล่านั้นได้รับความเคารพ ถ้าสามารถทําได้ให้ฝังไว้ ณ สถานที่เดียวกันตามสัญชาติของผู้เสียชีวิต โดยให้ได้รับการดูแลอย่างดีและมีเครื่องหมายเพื่อให้ค้นหาได้เสมอ เพื่อการนี้เมื่อเริ่มต้นการสู้รบ ภาคีคู่พิพาท จะได้จัดตั้งบริการทะเบียนหลุมฝังศพขึ้นเป็นทางการ เพื่อสามารถให้ทําการขุดศพขึ้นภายหลังและยืนยันศพได้ ไม่ว่าหลุมฝังศพจะตั้งอยู่ ณ ที่ใดและเพื่อสามารถทําการส่งศพคืนไปประเทศเดิมได้บทบัญญัตินี้ให้เป็นอันใช้โดยนัยเดียวกันสําหรับอัฐิซึ่งบริการทะเบียนหลุมฝังศพจะได้เป็นผู้เก็บรักษาไว้จนกว่าประเทศเดิมจะได้แจ้งความประสงค์ว่าจะให้ดําเนินการในเรื่องนื้อย่างใด

ในทันทีที่พฤติการณ์จักอํานวยให้และโดยเร็วที่สุดเมื่อการสู้รบสิ้นสุดลงแล้ว ให้บริการดังกล่าวนี้จัดให้มีการแลกเปลี่ยนบัญชีแสดงที่ตั้งและเครื่องหมายหลุมฝังศพอันแน่นอนพร้อมด้วยรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับผู้เสียชีวิตซึ่งฝังอยู่ ณ ที่นั้นโดยผ่านสํานักงานสนเทศตามที่ได้กล่าวไว้ในวรรคสองแห่งข้อ ๑๖

ข้อ ๑๘

เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารอาจร้องขอเมตตาจิตจากพลเมืองให้มารวบรวมและรักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บและป่วยไข้โดยสมัครใจก็ได้ภายใต้ความควบคุมของเจ้าหน้าที่นั้น ๆ โดยให้บุคคลที่ตอบสนองรับคําขอร้องนั้นได้รับความคุ้มครองและความสะดวกต่าง ๆ ที่จําเป็น หากฝ่ายปฏิปักษ์เข้ายืดหรือกลับเข้ามายีดครองควบคุมพ้นที่บริเวณนั้นได้ ฝ่ายนั้นก็จะต้องให้ความคุ้มครองและความสะดวกเช่นเดียวกันแก่บุคคลดังกล่าวแล้วนั้นต่อไป

เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารจะต้องอนุญาตให้พลเมืองและสมาคมบรรเทาทุกข์ต่าง ๆ แม้แต่ในบริเวณพื้นที่ที่ถูกรุกรานหรือถูกยึดครองแล้ว ทำการรวบรวมและรักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บหรือป่วยไข้ไม่ว่าสัญชาติใดโดยความสมัครใจได้ ประชาชนพลเรือนจะต้องเคารพผู้บาดเจ็บและป่วยไข้เหล่านี้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจะต้องละเว้นไม่กระทำทารุณกรรมแก่บุคคลดังกล่าว

ห้ามมิให้กลั่นแกล้งรบกวนทำความเดือดร้อนหรือลงโทษผู้ที่ได้พยาบาลผู้บาดเจ็บหรือป่วยไข้

บทบัญญัติแห่งข้อนี้ไม่เป็นการปลดเปลื้องประเทศที่ยึดครองจากพันธกรณีที่จะต้องดูแลผู้บาดเจ็บและป่วยไข้ทั้งในทางร่างกายและทางจิตใจ