หน้า:อนุสัญญาเจนีวา (อทร.).pdf/22

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร

บบัญญัติตังกล่าวมาข้างต้นนีจะไม่ทําให้ประเทศที่กักคุมพ้นจากพันธกรณี ซึ่งตนมีอยู่เพื่อสวัสดิภาพทางแพทย์และทางจิตใจของเชลยศึก

ข้อ ๒๙

ผู้ที่เป็นพนักงานที่ระบุไว้ในข้อ ๒๕ ซึ่งตกอยู่ในอํานาจของฝ่ายศัตรูนั้นให้ถือว่าเป็นเชลยศึก แต่จะใช้ให้ปฏิบัติหน้าที่ทางแพทย์เมื่อมีความจําเป็น

ข้อ ๓๐

พนักงานที่ไม่มีความจําเป็นจะต้องถูกกักตัวไว้ตามนัยแห่งบทบัญญัติข้อ ๒๘ นั้น จะต้องจัดส่งตัวกลับไปให้ภาคีคู่พิพาทซึ่งบุคคลเหล่านั้นสังกัดอยู่ในทันทีที่สถานการณ์เอื้ออํานวย และเมื่อความจําเป็นทางทหารเปิดซ่องให้

ในระหว่างที่รอการส่งตัวกลับนั้นจะไม่ถือว่าบุคคลเหล่านี้เป็นเชลยศึก อย่างไรก็ตามอย่างน้อยที่สุดบุคคลดังกล่าวนี้จะต้องได้รับประโยชน์จากบทบัญญัติต่าง ๆ แห่งอนุสัญญาเจนีวาเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อเชลยศึก ฉบับลงวันที่ ๑๒ สิงหาคม ค.ศ. ๑๙๔๙ บุคคลเหล่านี้ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ ภายใต้คําสั่งของภาคีฝ่ายปฏิปักษ์ และโดยเฉพาะให้ปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาผู้บาดเจ็บและป่วยไข้ของภาคีคู่พิพาทฝ่ายที่บุคคลนั้นเองสังกัดอยู่

ในเวลาเดินทางกลับ บุคคลเหล่านี้สามารถที่จะนําสิ่งของ ทรัพย์สินส่วนตัว สิ่งของอันมีค่าและเครื่องมือต่าง ๆ ซึ่งเป็นของตนกลับไปกับตนได้ด้วย

ข้อ ๓๑

การคัดเลือกพนักงานเพื่อส่งตัวกลับตามข้อ ๓๐ นั้น ให้กระทําโดยปราศจากการพิจารณาถึงเชื้อชาติ ศาสนา หรือความคิดเห็นทางการเมือง แต่โดยเฉพาะให้กระทําโดยเรียงตามลําดับวันที่ถูกจับและสภาวะของสุขภาพของบุคคลที่ว่านี้

หลังจากที่ได้เกิดการรบขึ้น ภาคีคู่พิพาทอาจทําความตกลงเป็นพิเศษเพื่อกําหนดอัตราร้อยละของพนักงานที่จะให้กักตัวไว้ตามอัตราส่วนสัมพันธ์กับจํานวนเชลยศึก และการแบ่งแยกพนักงานดังกล่าวนั้นไปยังค่ายต่าง ๆ

ข้อ ๓๒

บุคคลที่ระบุไว้ในข้อ ๒๗ ซึ่งตกอยู่ในอํานาจของภาคีผ่ายปฏิบักษ์จะต้องไม่ถูกกักคุม

เว้นแต่จะได้ตกลงกันเป็นอย่างอื่น บุคคลเหล่านี้จะต้องได้รับอนุญาตให้กลับคืนไปยังประเทศของตนได้หรือถ้าเป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำได้ก็ให้กลับคืนไปยังอาณาเขตของภาคีคู่พิพาทซึ่งบุคคลเหล่านั้นมีหน้าที่ประจำอยู่ทันทีที่สถานการณ์เอื้ออํานวยและเมื่อความจําเป็นทางทหารเปิดช่องให้

ในระหว่างที่รอการปล่อยตัวอยู่นี้ ให้บุคคลเหล่านี้คงปฏิบัติการงานต่อไปตามคำสั่งของภาคีฝ่ายปฏิปักษ์โดยเฉพาะให้ปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาผู้บาดเจ็บและป่วยไข้ของภาคีคู่พิพาทฝ่ายที่บุคคลนั้นเองมีหน้าที่ประจำอยู่

ในเวลาเดินทางกลับ บุคคลเหล่านี้สามารถที่จะนำสิ่งของ ทรัพย์สินส่วนตัว สิ่งของมีค่า เครื่องมือ อาวุธ และหากเป็นไปได้ ยานพาหนะสำหรับขนส่งซึ่งเป็นของตนกลับไปได้ด้วย

ตลอดระยะเวลาที่พนักงานเหล่านี้อยู่ในอำนาจของตน ภาคีคู่พิพาทจะต้องจัดให้ได้รับอาหาร ที่พักอาศัย เบี้ยเลี้ยงและเงินเดือนเท่ากันกับที่พนักงานเทียบชั้นเดียวกันในกองทัพของตนได้รับอยู่ ไม่ว่าในกรณีใด ๆ อาหารจะต้องดีพอทั้งในด้านปริมาณ คุณภาพ และชินดเพื่อให้พนักงานดังกล่าวนี้คงมีสภาวะของสุขภาพดีตามปกติ

๑๒