ภาคีคู่พิพาทแต่ละฝ่ายจะต้องดำเนินการโดยผ่านทางผู้บัญชาการทหารของตนเพื่อประกันไหใการปฏิบัติตามอนุสัญญาข้อต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้นให้เป็นไปโดยละเอียด และดําเนินการที่จําเป็นต่าง ๆ สำหรับกรณีที่มิได้คาดหมายไว้ล่วงหน้าให้สอดคล้องกับหลักทั่วไปแห่งอนุสัญญานี้
ห้ามมิให้กระทําการอันเป็นการตอบแทนแก้แค้นต่อผู้บาดเจ็บ ป่วยไข้ พนักงาน อาคาร หรือบริภัณฑ์ ที่ได้รับความคุ้มครองโดยอนุสัญญาฉบับนี้
อัครภาคีผู้ทําสัญญารับที่จะเผยแพร่ตัวบทแห่งอนุสัญญาฉบับนี้ในประเทศของตนอย่างกว้างขวางที่จะทําได้ ทั้งในยามสงบและในยามสงคราม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งให้รวมการศึกษาอนุสัญญานี้เข้าในโครงการศึกษาของทหารและถ้าเป็นได้ในโครงการศึกษาของพลเรือนด้วย เพื่อให้ประชาชนโดยทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยกําลังรบ พนักงานแพทย์ และอนุศาสนาจารย์ได้ทราบหลักการแห่งอนุสัญญานี้
อัครภาคีผู้ทำสัญญาจะได้ส่งคำแปลเป็นทางการอนุสัญญานี้ให้กันและกัน โดยผ่านทางคณะมนตรีสหพันธ์สวิส และในระหว่างการรบในส่งผ่านทางประเทศที่คุ้มครอง รวมทั้งกฎหมายและข้อบังคับต่าง ๆ ซึ่งตนอาจบัญญัติขึ้นเพื่อประกันการปฏิบัติตามอนุสัญญานี้
อัครภาคีผู้ทําสัญญารับที่จะตรากฎหมายตามที่จําเป็นขึ้นไว้ให้มีบทลงโทษทางอาญาอันจะปรับใช้ได้อย่างได้ผลแก่บุคคลที่กระทําหรือสั่งให้กระทําการละเมิดอันร้ายแรงใด ๆ ต่ออนุสัญญาดังไดนิยามไว้ในข้อต่อไป
อัครภาคีผู้ทําสัญญาแต่ละฝ่ายมีพันธกรณีที่จะต้องค้นหาตัวผู้ที่ต้องหาว่าได้กระทำหรือได้สั่งให้กระทำการละเมิดอันร้ายแรงนั้น ๆ และจะต้องนําตัวบุคคลเหล่านี้ไม่ว่าจะมีสัญชาติใดขึ้นศาลของตน หากประสงค์และจะให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายของตนแล้ว อัครภาคีฝ่ายนั้นอาจส่งตัวบุคคลดังกล่าวไปให้อัครภาคีอีกฝ่ายหนึ่งที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาคดีก็ได้ แต่อัครภาคีฝ่ายนั้นจะต้องแสดงว่ามีข้อกล่าวหาอันมีมูลเพียงพอ
อัครภาคีผู้ทําสัญญาแต่ละฝ่ายจะต้องจัดการตามที่จําเป็นเพื่อระงับบรรดาการกระทำใด ๆ อันขัดต่อบทบัญญัติแห่งอนุสัญญานี้ นอกจากการละเมิดร้ายแรงที่ได้นิยามไว้ในข้อต่อไป
ในทุกพฤติการณ์ บุคคลผู้ต้องหาจะต้องได้รับประโยชน์แห่งความคุ้มครองในการพิจารณาและการต่อสู้คดีโดยเป็นธรรม ซึ่งเป็นการให้ความอนุเคราะห์ไม่น้อยไปกว่าที่ได้บัญญัติไว้ในข้อ ๑๐๕ และข้อต่อ ๆ ไปแห่งอนุสัญญาเจนีวา เกี่ยวกับการปฏิบัติต่อเชลยศึก ฉบับลงวันที่ ๑๒ สิงหาคม ค.ศ.๑๙๔๙