หน้า:เครื่องมโหรีฯ - ดำรง - ๒๔๗๓ (๑).pdf/17

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๓

เมื่อในรัชชกาลที่ ๒ กรุงรัตนโกสินทร พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยโปรดฯ ทั้งละคอนและเสภา มีคำเล่ากันสืบมาว่า เมื่อก่อนรัชชกาลที่ ๒ ประเพณีที่จะส่งปี่พาทย์หามีไม่ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงพระราชดำริให้เสภาขับส่งปี่พาทย์ (อย่างเช่นมะโหรี) ขึ้นเป็นปฐม ดังนี้ ที่เอาเปิงมางสองหน้าเข้าใช้ในเครื่องปี่พาทย์ ก็คงเอาเข้าในคราวนี้นั้นเองสำหรับตีรับเสภาเป็นเดิมมา ด้วยเสียงเบาเข้ากับขับร้องดีกว่าโทน (ตะโพน) ปี่พาทย์รับเสภาจึงใช้เปิงมางสองหน้ามาจนทุกวันนี้ การที่พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงแก้ไขกระบวนเสภาเช่นว่ามา ชวนให้คิดเห็นว่า บางทีปี่พาทย์ละคอนก็จะทรงแก้ไขให้เสียงปี่พาทย์เข้ากับละคอนดีขึ้น ถ้าเช่นนั้น ปี่ในและกลองขนาดเขื่องกว่ากลองหนังที่ว่ามาแล้ว ก็เห็นจะเป็นของเกิดขึ้นในรัชชกาลที่ ๒ แต่เครื่องปี่พาทย์ก็ยังคงเป็นแต่เครื่อง ๕ ต่อมา.

ได้กล่าวมาข้างต้นว่า ปี่พาทย์เดิมเป็นเครื่องอุปกรณ์การฟ้อนรำ เช่น เล่นหนังและโขนละคอน เป็นต้น หรือทำเป็นเครื่องประโคมให้ครึกครื้น ครั้นพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงพระราชดำริให้เสภาขับส่งปี่พาทย์ ๆ ก็กลายเป็นเครื่องสำหรับให้ไพเราะโดยลำพัง เพราะฉะนั้น เมื่อเล่นเสภาส่งปี่พาทย์กันแพร่หลายต่อมาถึงรัชชกาลที่ ๓ จึงมีผู้คิดเครื่องปี่พาทย์เพิ่มเติมขึ้นให้เป็นคู่หมดทุกอย่าง คือ