หน้า:เทศาภิบาล - ดำรง - ๒๔๙๘.pdf/30

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๒๕

พระยาวรพุฒิฯ บอกว่า ที่ข้าพเจ้าไปเป็นแต่จะไปตรวจราชการตามหัวเมือง ไม่ได้มีเหตุการณ์อันใดเกิดขึ้นดอก ก็มิใคร่มีใครเข้าใจ น่าจะพากันนึกว่า เพราะข้าพเจ้าเป็นเสนาบดีแต่ยังหนุ่มผิดกับท่านแต่ก่อน ก็เที่ยวซอกแซกไปตามคะนอง

แต่ความจริงปรากฏแก่ตัวข้าพเจ้าแต่ครั้งนั้นมาว่า ที่เสนาบดีไปเที่ยวตรวจราชการตามหัวเมืองเป็นประโยชน์อย่างสำคัญมาก หรือจะว่าเป็นการจำเป็นทีเดียวก็ได้ ต่อมา ข้าพเจ้าจึงเที่ยวตรวจหัวเมืองเป็นนิตย์สืบมากว่า ๒๐ ปีจนตลอดสมัยเมื่อข้าพเจ้าเป็นเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย

ข้าพเจ้าไปตรวจหัวเมืองครั้งนั้น ได้เห็นประเพณีการปกครองหัวเมืองอย่างโบราณที่ยังใช้อยู่หลายอย่างควรจะเล่าเข้าในโบราณคดีได้ แต่ต้องเล่าประกอบกับวินิจฉัยอันเป็นความรู้ซึ่งข้าพเจ้าได้ต่อเมื่อภายหลังด้วย จึงจะเข้าใจชัดเจน

การปกครองตามหัวเมืองในสมัยนั้นยังใช้วิธีเรียกในกฎหมายเก่าว่า กินเมือง อันเป็นแบบเดิม ดูเหมือนจะใช้เช่นเดียวกันทุกประเทศทางตะวันออกนี้ ในเมืองจีนก็ยังเรียกว่า กินเมือง ตามภาษาจีน แต่ในเมืองไทย มาถึงชั้นหลังเรียกเปลี่ยนเป็น ว่าราชการเมือง ถึงกระนั้น คำว่า กินเมือง ก็ยังใช้กันในคำพูดและยังมีอยู่ในหนังสือเก่า เช่น กฎมนเทียรบาล เป็นต้น

วิธีปกครองที่เรียกว่า กินเมือง นั้น หลักเดิมคงมาแต่ถือ