หน้า:เปิดกรุ (๑) - เหม เวชกร - ๒๕๓๘.pdf/195

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๙๕
 

จะทำอย่างไรเล่า วิชัยเป็นคนใจแข็งพอ ด้วยว่าเป็นนักธุรกิจวิ่งรถผ่านเมืองไกลเสมอ ย่อมระมัดระวังตัว จึงตอบว่า

"ฉันมีธุระร้อนจริง ๆ ทำอย่างนั้นไม่ได้ มันเกี่ยวกับการเป็นการตายเหมือนกัน" แม่หญิงนั้นยืมก้มหน้านิ่ง ไม่พูดว่าอะไร

"หลีกทางฉันหน่อยซิ ฉันธุระร้อนจริง ๆ" วิชัยว่า

"ดูนี่ซิยะ คุณ" แม่นั่นว่า "คนเจ็บแท้ ๆ ยังไม่ช่วย พูดแล้วเปิดผ้าคลุมโปงนั้นออกให้เห็นสภาพคนเจ็บที่เขาว่า แสงไฟเราสว่างจ้า มองเห็นถนัด ผมและวิชัยสะดุ้งทั้งตัว นั่นมันศพแท้ ๆ ไม่ใช่คนเจ็บอย่างพูด ศพนั้นมีผ้าพันตัวและเชือกตราสังมัดอยู่ ส่วนตอนหน้านั้นเปิดเห็นถนัด มันเป็นศพแห้งตายซาก มีกระดูกบางส่วนโผล่ออกจากเนื้อที่แห้งกรังนั้น เบ้าตากลวงลึก

"อ้อ! นี่ย้ายศพกันแบบนี้หรือ" ผมตะโกนด้วยความโกรธด้วยนึกสะอิดสะเอียน มนุษย์อะไร มีปากพูดมาได้ขออาศัยรถ ใครเล่าจะลงทุนเอารถขนศพให้

"หลีกทางซิ" ผมตวาดออกไปอย่างโทโสที่สุด แม่คนนั้นไม่พูดอะไร ก้มลงจับคานเลื่อนค่อย ๆ เลื่อนไปทีละน้อยอย่างยากเย็น มีทีท่าโกรธเรา ไม่ยอมหันหน้าดูเราเลย ก้มหน้าลากยักแย่ยักยัน ดูแกไม่ค่อยจะมีแรง การหลีกทางของแกจึงชักช้ามาก

"อยากไปเร็ว ๆ ลงมาช่วยกันลากซิ" แม่คนนั้นพูดอย่างแดกกันเรา ทั้ง ๆ ไม่ทันหน้ามาทางเรา ศพที่นอนบนเลื่อนโดนแรงที่ลากบ้างหยุดบ้างขยักขย่อนก็กระเทือน จึงกลอกหน้ากลอกตาน่าเกลียดขยะแขยงอย่างนั้นหรือ แกร้องว่า อยากจะไปเร็ว ๆ ก็ให้ลงไปช่วยแกลาก เหตุใดเล่า อยู่ดี ๆ จะลงไปลากศพโดยใช่เรื่อง แต่ครั้นจะหันหัวรถไปทางคนลากแล้วรีบพุ่งรถไป ถ้าหากเคราะห์ไปโดนแกเข้า เรามิแย่หรือ หากจะตัดสินใจหักพวงมาลัยไปทางท้ายเลื่อนแล้วออกวิ่ง ถ้าไม่พ้นล่ะ โดนเอาศพเข้า จะเลอะเทอะกันใหญ่ จำเป็นจริง ๆ ที่ต้องเดินเครื่องรอคอยการลากของแกที่ค่อย ๆ พ้นไปทีละฝ่ามือ ดู ๆ ว่า จะมีกลิ่นศพโชย ๆ มา