หน้า:เปิดกรุ (๑) - เหม เวชกร - ๒๕๓๘.pdf/197

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๙๗
 

ตามหลังได้เปิดแตรขอทางแล้วเร่งความเร็วหลีกขึ้นหน้า และโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวแท็กซี่นั้นก็หักคันรถขวางหน้า เราหยุดแทบไม่ทัน ทางฝ่ายแท็กซี่ได้ลงจากรถมายืนที่ถนนหลายคน ถือปืนร้องตะโกนให้เราทั้งหมดลงจากรถ พวกฉันก็รีบลง แต่สามีฉันกับหลานชายได้ชักปืนออกยิงไปถูกที่สำคัญ มันจึงยิงใส่สามีและหลานชายเป็นห่าฝน เลยตายคารถ ส่วนฉันสองคนถูกกวาดทองหยองเงินบาทไปหมด แล้วมันยังถอดข้าวของและเงินทองที่ตัวผู้ตายอีกทั้งหมดกลับขึ้นรถหนีไป มันวิ่งกลับมาทางถนนใหญ่ แต่ไม่ทราบว่า มันจะไปนครปฐมหรือไปทางราชบุรี

"จำเบอร์รถได้ไหมครับ" วิชัยถาม

"จำได้ค่ะ" หญิงอีกคนตอบ

"ดีครับ" ผมว่า

เราได้ถึงสถานีตำรวจนครปฐมโดยรวดเร็ว พาแม่หญิงสองคนเข้าพบตำรวจ แจ้งเรื่องแล้วเราก็ลาแยกทาง วิชัยหยุดรถที่ร้านเหล้า เอาเหล้ามาเปิดขวดดื่มเพียว ๆ สองทีซ้อน ผมก็ดื่มตามอย่างเดียวกัน ใจยังไม่หายสั่น จะดื่มเติมโซดาไม่ไหว ขอฤทธิ์เหล้าช่วยเร็ว ๆ หน่อย ตามปกติเราดื่มไม่ได้อย่างนี้เลย แต่เท่าที่ดื่มได้ก็เพราะขวัญเราหายหมด ถูกผีหลอกมาหยก ๆ ก็มาพบการปล้นกันขึ้นอย่างจังถึงกับมีการตายเกิดขึ้น ใจเราเลยระส่ำระสายไม่อยู่ในระดับปกติได้ เราดื่มกันหลายก๊งจึงออกรถต่อไปทางด้านข้างตลาดโน้น ไปบ้านญาติของเมียวิชัย

ถูกต่อว่านิดหน่อยว่าล่าช้า เราจึงรีบอธิบายว่า เท่าที่รอดมาได้นี้เป็นบุญนัก ชั้นแรกถูกผีหลอกอย่างจัง หนีมาอย่างไม่ตั้งสติ ถ้าข้อไม่แข็งก็มีหวังรถคว่ำหรือไม่ก็ตกข้างทาง ซ้ำยังมาผ่านการปล้นอีกถึงกับยิงกันตายคารถ เราได้เล่าให้ฟังทั้งหมด ญาติข้างเมียของวิชัยเกิดตาลุกวาวขึ้น ถามว่า รถที่ถูกปล้นเป็นรถอะไร ผมและวิชัยก็ตอบไม่ได้ เพราะเรามิได้เข้าใกล้รถคันที่มีศพตายคารถอยู่ ญาติผู้ใหญ่นั้นเกิดร้อนรนขึ้น

"ญาติฉันไปสุพรรณเมื่อครู่นี่เอง" พอได้ยินเสียงนี้ เราสองคนก็ตกใจ