หน้า:เปิดกรุ (๒) - เหม เวชกร - ๒๕๓๘.pdf/34

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
41
 

"อ้ายเรือง มึงกลับเรอะ?" ตาป่องถาม

"จ้ะ ฉันจะรีบไปบอกยายแกเดี๋ยวนี้" ผมตอบแล้วก็จําเรือต่อมา

"ผีมันกิน" คำนี้ก้องอยู่ในหูผม "ผีมันกิน" ใจผมเต้นรัว ดีแต่ว่าเป็นกลางวัน ถ้าเป็นกลางคืน ผมจะพายเรือไปได้อย่างไรกัน ผมตัวคนเดียวแท้ ๆ เวลานี้ไม่มีเพื่อนเลย อ้ายจ้อยร้องว่า น้าเกิด ก็คือ น้าเกียรติของผม อ้ายจ้อยร้องอย่างนี้มาหลายวันแล้ว ถ้าเช่นนั้น น้าเกียรติมิกินป้าจีบหรือ ใจผมเต้นรัว นี่ถ้าเป็นหน้าแล้ง ไปไหนเดินบก ป่านี้ผมวิ่งแน่บไปแล้ว

พอถึงบ้านเห็นเจ้าแห่งยืนอยู่ริมตลิ่ง ผมยกมือโหวกเหวกพูดอะไรไม่ออก พอเอาเรือเกยตลิ่ง ก็ดึงมือมันขึ้นเรือน รีบบอกข่าวการตายของป้าจีบกับยาย ยายตกใจ รีบลงจากเรือน และพายเรือออกไปอย่างรีบร้อน ผมอยู่ทางบ้านก็เล่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เห็นมาให้พี่พุกลุงโนด ป้ากะออม และเจ้าแฟงฟังอย่างละเอียด

"เอ๊ะ! เจ้าเกียรติมันจะไปบ้านนั้นทำไมล่ะ" ลุงโนดออกความเห็น

"พุทโธ่ ลุงก็" พี่พุกพูด "ลุงไม่รู้เรื่องเรอะ ก็น้าเกียรติเขาเคยรักอยู่กับนังหนอมอยู่เก่า แต่หากว่า ป้าจีบแกไม่พอใจที่อายุน้าเกียรติผิดกับนังหนอม เรื่องก็รากันไป จนน้าเกียรติจากไปตาย ว่าได้เรอะ จิตยังอาวรณ์ อาจจะมาวนเวียนอยู่ที่นั่น" พี่พุกพูดดังนั้น ผมชักเห็นจริง และแน่ใจเลย ผมมองดูตาเจ้าแฟง ใจคิดว่า น้าเกียรติอย่ามาบ้านฉันเลย

"มันจะมีเจ้าเกียรติเข้า หรือเจ้าเข้าทรงกันแน่" ป้ากะออมพูดลอย ๆ

"ตาแกว่า ป้าจีบเป็นบ้า เพราะเลือดทำเอา ไม่ใช่ผีใช่เจ้าทั้งนั้น" ผมว่า

"มันยังไงกันหว่า ลุกขึ้นเต้น แล้วก็ล้มลงตายเลย" ป้ากะออมยังสงสัย

"แต่อ้ายจ้อยบ้ามันร้องเรียกน้าเกียรติอยู่นา" ผมว่า

"นั่นน่ะซี มันก็พิลึก มันเป็นบ้า มันไม่มีมารยาหรอก มันต้องเห็นจริง ๆ จึงร้องเรียกไป" ป้ากะออมให้ความเห็นที่แนบเนียน

"อือ! ก็น่าคิดโว้ย" ลุงโนดพึมพำ

เราทุกคนออกความเห็นกันคนละเล็กละน้อย แต่ผมนิ่งเงียบ เพราะ