หน้า:เลิกทาสในรัชกาลที่ ๕ - ศก - ๒๔๘๗.pdf/4

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร

ไหย่ และเปนชื่อเรียกเชื้อชาติของชนชาวไทยมาแต่เมื่อยังครอบครองดินแดนหยู่ไนประเทศจีนตอนได้สมัยดึกดำบรรพ แต่ที่มามีคำแปลอีกหย่างหนึ่งว่า "เปนอิสระแก่ตัว, ไม่เปนข้าไคร" อันมีความหมายตรง กันข้ามกับคำว่าทาสนั้น น่าจะเกิดแต่เหตุการน์หย่างอื่นไนภายหลังประเพนีเรื่องทาสของชนชาวไทยจะมีมาแต่เมื่อไร ยังซาบไม่ได้ชัดเจนมีเค้าพอรู้ได้บ้างตามที่สมเด็ดพระเจ้าบรมวงส์เทอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพซงนำมากล่าวไว้ไนปาถะกถาเรื่อง "ลักสนะการปกครองประเทสสยามแต่โบราน" ตอนหนึ่งว่า "เรื่องทาสกัมกรไนประเพนีไทยแต่เดิมหามีไม่ พวกไทยที่มาหยู่ข้างไต้มารับประพรึติการไช้ทาสตามประเพนีขอม มีความปรากตไนบานแผนกกดหมาลักสนะลักพาบทหนึ่งว่าเมื่อครั้งกรุงสรีอยุธยากับกรุงสุโขทัยเปนไมตรีกันนั้น มีผู้ลักพาทาสไนกรุงสรีอยุธยาหนีขึ้นไปเมืองเหนือ พวกเจ้าเงินกราบทูนพระเจ้าอู่ทอง ขอไห้ไปติดตามเอาทาสกลับมาว่าเพราะ "เมืองท่านเปนอนัหนึ่งอันเดียวกันแล้ว" ดังนี้ แต่พระเจ้าอู่ทองหาซงบันชาตามไม่ ดำหรัดสั่งไห้ว่ากล่าวเอาแก่ผู้ขายนายประกัน และมีคำซึ่งยังไช้กันมาปรากตหยู่คำหนึ่ง ซึ่งเรียกผู้พ้นจากทาสว่า "เปนไทย" ดังนี้พึงสันนิถานได้ว่า เพราะแต่เดิมชนชาติไทยไม่นีที่จะเปนทาส และไทยมารับไช้ปร้เพนีทาสกัมกรจากขอม ทาสจึงได้มีสืบมาไนประเทสสยามจนกะทั่งพระบาทสมเด็ดพระจุลจอมเกล้าเจ้าหยู่หัว ซงพระกรุนาโปรดไห้เลิกเสียเมื่อไนรัชกาลที่ 5" เมื่อเรื่องทาสเปนเรื่องสำคันไนประวัติ