หน้า:โฉมหน้าศักดินาไทย (9th ed).pdf/124

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
จิตร ภูมิศักดิ์  ๑๕๑ 

ว่า ถ้าเห็นว่าทุกคนควรมีที่ดินทำกินแล้ว ทำไมจึงให้แก่คนยากจนเพียงคนละ ๕ ไร่ ซึ่งไม่พอกิน (ทั้งนี้โดยเทียบจาก สถิติของ ดร. คัส เซเบาวน์ (พ.ศ. ๒๔๗๕) ซึ่งปรากฏว่ากสิกรที่ทำนาต่ำกว่าหกไร่ต้องหารายได้ทางอื่นมาชดเชยรายจ่าย๘๑) และที่น่าขำนักหนาก็คือเขาอธิบายว่า การที่ประชาชนได้ครอบครองที่ดินทำมาหากินนี้เป็น "อภิสิทธิ์" และจะต้องส่งส่วยแก่กษัตริย์เพื่อตอบแทน "อภิสิทธิ์" นั้น! นี่คืออภิสิทธิ์ในทรรศนะของศักดินา อภิสิทธิ์ถ้าจะมีก็คืออภิสิทธิ์ที่ชนชั้นศักดินาสวาปามที่ดินได้ผืนมหาศาลนั้นต่างหาก ส่วนอภิสิทธิ์ของประชาชนผู้ยากจนทั่วไปก็คืออภิสิทธิ์ในการอดอยากยากแค้น! ที่น่าขำอีกอันหนึ่งก็คือคำอธิบายที่ว่าคนๆ หนึ่งจะมีที่ดินได้มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบที่เขามีต่อรัฐ ถ้าเช่นนั้นจริงประชาชนนั่นแหละจะต้องได้ครอบครองที่ดินร่วมกันทุกๆ หมื่นไร่แทนพวกพระยานาหมื่น พวกศักดินานี้หนอช่างมองข้ามหัวไพร่ที่ไถนาให้พวกตัวนอนกระดิกตีนกินเอาๆ เสียอย่างนี้ เสมอ! เอาเถอะแม้ว่าเขาจะถือว่าการทำราชการสำคัญกว่าการไถนา พวกข้าราชการมีความรับผิดชอบต่อรัฐมากกว่าไพร่ จึงได้ศักดินามากกว่า แต่ยังสงสัยอยู่นิดเดียวแหละว่าพวกสาวสวรรค์กำนัลในเป็นร้อยๆ! ในฮาเร็มของกษัตริย์นั้น มีหน้าที่รับผิดชอบอะไรต่อรัฐ พวกเมียเล็กเมียน้อยของขุนนางทั้งปวงนั้น มีความรับผิดชอบต่อรัฐตรงไหน ทุกนางจึงได้มีศักดินากันมากกว่าพวกไพร่ทั้งมวล เรารู้ว่าถ้าไม่มีพวกไพร่สังคมก็ทลายครืนเพราะไม่มีผู้ผลิต ไม่มีข้าวกินกันทั้งเมือง แต่การไม่มีพวกนางสนมกรมในและเมียเล็กเมียน้อยมิได้ทำให้รัฐต้องฉิบหายลงเลย ตรงข้ามกลับจะเหลวแหลกน้อยลง และเจริญขึ้นเสียด้วยซ้ำ! ฉะนั้นข้อที่ปราชญ์ฝ่ายศักดินาว่าไว้ว่าใครจะมีที่ดินมากหรือน้อย สุดแท้แต่หน้าที่รับผิดชอบต่อรัฐนั้นเห็นจะเชื่อ