ขันรองเชือกรังวัดและ ทำน้ำมนต์ประพรมสวน |
๐.๑๒ บาท |
ค่ารังวัดหัวเชือก | ๐.๒๕ บาท |
หางเชือก | ๐.๑๒ บาท |
รวมทั้งสิ้น | ๒.๓๕ บาท |
ทางฝ่ายเจ้าของสวนเมื่อมาเห็นการตั้งพิธีพะรุงพะรังเข้าก็เลยเข้าใจไปเลยว่าในหลวงท่านกรุณาส่งคนมาทำน้ำมนต์พรมสวนให้ได้ผลดี เลยดีอกดีใจลืมนึกไปว่าเขามาเก็บภาษีอากร พวกข้าหลวงก็เป็นตัวแทนที่เก็บอากรไปด้วยลำเลิกบุญคุณไปด้วย
สิ่งที่เจ้าของสวนจะต้องเสียอีกก็คือถ้าสวนใดได้ทำการเดินสวนมาแล้วครบ ๕ ครั้ง จะต้องจ่ายเงินให้แก่ข้าหลวงอีกสวนละเฟื้อง และต้องจ่ายเบี้ยเลี้ยงให้อีกสวนละสองสลึง เป็นอันว่าโดนเข้าอีกสวนละสามสลึงเฟื้อง
อีกสิ่งหนึ่งที่ประชาชนเจ้าของสวนจะต้องเสียก็คือเมื่อข้าหลวงออกมาเดินสวน จะต้องนำเอาโฉนดเก่าออกมาสอบทานยืนยัน แล้วรับเอาโฉนดใหม่ไป ในการนี้ จะต้องเสียเงินค่าโฉนดอีกใบละ ๑ บาท ๒ สลึง
ท้ายที่สุดก็คือการผูกขาดซื้อแก่นไม้ ๓ จำพวก กล่าวคือไม้มะเกลือซึ่งเป็นไม้ดำ, ไม้ละมุดสีดาอันเป็นไม้แดงเนื้อละเอียด และไม้จันทน์ซึ่งเป็นไม้เนื้อขาวละเอียด เจ้าของจะโค่นจะฟันต้องมาแจ้งให้ข้าหลวงรับรู้แล้วขนไม้มาทูลเกล้าฯ เมื่อโค่นแล้วก็ต้องปลูกซ่อมแซมขึ้นใหม่ตามข้อบังคับ
อากรสวนนั้นยังมีวิธีเก็บอีกอย่างหนึ่งคือ เก็บโดยวัดพื้นที่เป็นไร่ เช่น สวนจากเสียอากรไร่ละเฟื้อง สวนแบบนี้มีเจ้าพนักงาน