หน้า:โฉมหน้าศักดินาไทย (9th ed).pdf/190

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
จิตร ภูมิศักดิ์  ๒๑๗ 
มณฑลนครราชสีมา ๑๑ ตำบล
มณฑลจันทบุรี ๒๖ ตำบล

มณฑลนครศรีธรรมราช, มณฑลชุมพร, มณฑลราชบุรี, มณฑลภูเก็ต, มณฑลบูรพา (เขมรใน) และมณฑลอุดรหาสถิติไม่ได้

รายได้จากอากรบ่อนเบี้ยตั้งแต่สมัยอยุธยาเห็นจะเป็นจำนวนหลายแสนบาท เพราะเพียงอากรที่มีผู้ขอทำในเมืองราชบุรี, สมุทรสงคราม และสมุทรปราการเพียง ๓ เมือง เมื่อ พ.ศ. ๒๒๙๙ ก็ตกเข้าไปถึง ๒๙,๖๘๐ บาท ต่อปีแล้ว

รายได้จากอากรบ่อนเบี้ยในสมัยรัตนโกสินทร์ตามที่จอห์น ครอเฟิด ทูตอังกฤษจดไว้เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๖๕ ว่ามีจำนวน ๒๖๐,๐๐๐ บาท

ในสมัยรัชกาลที่ ๓ อากรบ่อนเบี้ยขยับสูงขึ้นเป็น ๔๐๐,๐๐๐ บาท พอถึงรัชกาลที่ ๔ เพิ่มขึ้นเป็นราว ๕๐๐,๐๐๐ บาท ตกถึงรัชกาลที่ ๕ อากรบ่อนเบี้ยเพิ่มขึ้นจนเป็ นอากรประเภทเงินมากอย่างหนึ่ง แต่ในระยะนั้นรัชกาลที่ ๕ ได้ปรับปรุงวิธีการเก็บภาษีอากรให้มีระเบียบได้ผลเต็มเม็ดเต็มหน่วยขึ้น โดยตั้งหอรัษฎากรพิพัฒน์ (๒๔๑๘) จึงคิดหาทางเลิกอากรบ่อนเบี้ย เพราะตระหนักว่าการหมกมุ่นเล่นเบี้ยทำให้ผลประโยชน์ของประเทศในด้านอื่นเสียหายไปมากมาย ในสมัยนั้นจึงยุบบ่อนเบี้ยลงเรื่อยเป็นระยะๆ จนในที่สุดเหลือเพียง ๕ ตำบลในกรุงเทพฯ บ่อนเบี้ยเพียง ๕ แห่งนี้ ยังทำเงินให้ถึงปีละ ๖,๗๕๕,๒๗๖ บาท (พ.ศ. ๒๔๕๙) จนในที่สุดมาเลิกลงเด็ดขาดใน พ.ศ. ๒๔๖๐

"อากรหวย ก.ข." อากรหวยเริ่มเมื่อรัชกาลที่ ๓ เมื่อ พ.ศ. ๒๓๗๘ สาเหตุที่จะตั้งการเล่นหวย ก.ข. นั้นเนื่องมาจากเกิดเหตุทุพภิกขภัยสองปีซ้อนกันคือ พ.ศ. ๒๓๗๔ น้ำมากข้าวล่ม พ.ศ.