ก็รับเอาไว้ทันที แล้วมันก็สมจริงเสียด้วย ไอ้เจ๊กนี่เทียวที่มันขูดรีด ดูซิวานนี้บอกว่าไม่มีเงินเสียภาษี วันนี้มันเอาหมายมาเกาะตัวแล้ว ไอ้หมอนี่ทารุณนัก ใครๆ ก็คิดกันเช่นนี้จนเกิดคติขึ้นทั่วไปว่า พวกเจ๊กทั้งพวกขูดรีดคนไทย ทุกคนต้องเกลียดมัน เจ็บใจมัน ประชาชนในสมัยศักดินาถูกศักดินามอมเมาเสียจนมองไม่เห็นว่าอันที่จริงแล้ว "พวกเจ๊ก" ที่เขาด่าแม่นั้นเป็นเพียง "นายหน้า" ของศักดินาเท่านั้น "ไอ้ตัวหัวเหม่งสำคัญนั้นคือศักดินาต่างหาก!"
พวกศักดินามอมเมาให้คนไทยเกลียด "เจ๊ก" มาแต่โบรมโบราณเต็มที พวกกวีก็พลอยเกลียดชังจีนไปด้วยถึงกับเขียนไว้ว่า :
"ถึงโรงเจ้าภาษีตีฆ้องดัง | ตัวโผนั่งแจ่มแจ้งด้วยแสงเทียน |
ไว้หางเปียเมียสาวขาวสล้าง | เป็นจีนต่างเมืองมาแต่พาเหียร |
ที่ความรู้สิ่งไรมิได้เรียน | ยังพากเพียรมาได้ถึงใหญ่โต |
เห็นดีแต่วิชาขาหมูใหญ่ | เราเป็นไทยนึกมาน่าโมโห |
มิได้ทำอากรบ่อนโป | มาอดโซสู้กรรมท้ากระไร" |
(นิราศพระปฐม ของมหาฤกษ์)
นั่นก็คือเลือดรักชาติไทยชักจะเดือดปุดๆ นี่คือเลือดรักชาติแบบศักดินา และในสมัยต่อมาได้กลายมาเป็น "ชาตินิยมกระฎุมพี" (Bourgeois nationalism)
พวกศักดินาได้โฆษณาให้เกลียดชังจีนนี้อย่างหนักหน่วงขึ้นทุกวัน ทั้งนี้เพื่อบิดเบนสายตาของประชาชนไปเสียจากตน พวกนี้ไม่ทำอะไรมากไปกว่าชักชวนประชาชนไทยให้เจ็บใจคนจีน ดูซิมันกำเอาการค้าไว้หมดแล้ว พวกเรานับวันจะอดตาย แต่แล้วก็ไม่เห็นทำอะไร นอกจากหลอกลวงให้ประชาชนด่า "เจ๊ก" ไปชั่ววันๆ