หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๒๓๔ โฉมหน้าศักดินาไทย
๓๘ | อาณาจักรเขมรโบราณเคยแผ่ขึ้นไปจนถึงแคว้นลานช้าง หลักฐานที่ยังมีปรากฏก็คือศิลาจารึกประกาศตั้งโรงพยาบาล (อโรคยศาลา) ของพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ แห่งเขมร (พ.ศ. ๑๗๒๔-หลัง พ.ศ. ๑๗๔๔) อยู่ ณ บ้านทรายฟองริมฝั่งโขงใต้เมืองเวียงจันทน์ตรงข้ามบ้านเวียงคุก จังหวัดหนองคายบัดนี้ ดู "กระลาโหม" ของจิตร ภูมิศักดิ์ ใน "อักษรานุสรณ์" ฉบับต้อนรับน้องใหม่ ๒๔๙๗ |
๓๙ | La Stele du Prah Khan d' Angkor, G. Coedes, Bulletin de l' Ecole Francaise d' Extreme-Orient เล่ม ๔๑, หน้า ๒๙๕ |
๔๐ | Le Royaume de Combodge par Maspero |
๔๑ | ผู้ที่ไม่เคยไปและไม่มีท่าทีว่าจะไปนครวัด หรือไปแล้วอ่านคำบรรยายภาพไม่ออก เพราะเป็นภาษาเขมรโบราณ แต่อยากจะดูหลักฐานให้มั่นใจ ก็หาดูได้จากเรื่อง "Les Bas-relief d' Angkor-Vat" ของ G. Coedes ใน Bulletin de la commission archeologique de l' Indochine เล่มประจำปี ๑๙๑๑ |
๔๒ | Collection de texts et documents sur l' Indochine III, Inscription duc cambodge, Vol. II par G. Coedes, Hanoi 1942, p.176 |
๔๓ | ในจารึกภาษาไทยหลักที่สองของประชุมจารึกสยามภาค ๑ โขลนลำพงหรือลำพังนี้ เป็นตำแหน่งข้าราชการ ภายหลังมาตกอยู่ในเมืองไทย เป็ นกรมพระลำพัง (เขมรเรียกพระลำพัง แล้วไทยสุโขทัยเอามาเขียนลำพง) |
๔๔ | ดูรายละเอียดใน Pour mieux comprendre Angkor, par G. Coedes, Paris 1947 |
๔๕ | ดู "พิมายในด้านจารึก" ของ จิตร ภูมิศักดิ์, วงวรรณคดี ฉบับกุมภาพันธ์ ๒๔๙๖ |
๔๖ | ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่กรุงเทพฯ มีพระพุทธรูปที่ว่านี้อยู่รูปหนึ่ง ทำด้วยศิลาขนาดโตกว่าตัวจริง หน้าตาเป็นเขมรที่ไว้เปียตามคติพราหมณ์ รูปนี้ได้มาจากพิมาย ชาวบ้านเรียกกันว่าท้าวพรหมทัตนับว่าชาวบ้านไทยก็ไม่โง่พอที่จะให้ชัยวรมันหลอกว่าเป็นพระพุทธรูป |
๔๗ | ดูรายละเอียดใน La Stele du Prah Khan d' Angkor, G. Coedes, Bulletin de l' Ecole Francaise d' Extreme-Orient, Tome XLI, 1941 P. 255-301 |