หน้า:โฉมหน้าศักดินาไทย (9th ed).pdf/40

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
จิตร ภูมิศักดิ์  ๖๗ 

ที่ให้การศึกษาแก่กุลบุตรกุลธิดา ซึ่งแน่นอน ย่อมเป็นไปตามความปรารถนาของศักดินา

ยิ่งกว่านั้น ศาสนาได้กลายเป็นเครื่องมือในการต่อสู้ทางการเมืองระหว่างเจ้าขุนมูลนายด้วยกันเอง พวกนักบวชที่ตั้งตนเป็นอาจารย์จะซ่องสุมผู้คนเพื่อช่วงชิงอำนาจทางการเมือง หรือไม่ก็เพื่อสนับสนุนเจ้าขุนมูลนายที่อุปการะตน ทั้งนี้ กระทำได้โดยการเผยแพร่กฤตวิทยาคมไสยศาสตร์ บางครั้งเจ้าขุนมูลนายที่กําลังช่วงชิงอำนาจก็ใช้ศาสนาเป็นสะพานให้ประชาชนด่าทอสาปแช่งรัฐบาลเก่า และหันมาสนับสนุนพึ่งพาบารมีตนผู้กําลังจะเป็นเจ้าคนใหม่

ในสมัยที่รูปแบบการผลิตทุนนิยมพัฒนามาถึงขั้นที่ชนชั้นกลางลุกขึ้นมาต่อสู้กับศักดินา ศักดินาจะใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือที่มีสัมฤทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่นในฝรั่งเศสสมัยนโปเลียนที่ ๓ พวกศักดินาซากเดนได้พยายามแปลงร่างเป็นฝ่ายมหาชนรัฐ เรียกร้องให้นโปเลียนเปิดการศึกษาอย่างเสรี ทั้งนี้ก็เพราะขณะนั้นรัฐเป็นผู้ผูกขาดการศึกษา ที่ต้องทำเช่นนี้ก็เพราะถ้ารัฐไม่ผูกขาดพวกศักดินาก็จะมอมเมาประชาชนด้วยการศึกษาอย่างสบายอารมณ์ โดยเฉพาะวิทยาลัยต่างๆ เป็นวิทยาลัยที่พระดําเนินการทั้งสิ้น นโปเลียนที่ ๑ ยอดขุนศึกผู้ทารุณจึงแยกการศึกษาออกมาจากวัด แล้วผูกขาดดําเนินการโดยรัฐ ครั้นพอถึงสมัยนโปเลียนที่ ๓ เมื่อพวกศักดินาปลอมตัวเป็นฝ่ายมหาชนรัฐเรียกร้องให้เปิดการศึกษาเสรีโดยอนุญาตให้เอกชนดําเนินการได้ นโปเลียนที่ ๓ ก็ตกหลุม พอประกาศให้เอกชนดําเนินการศึกษาได้ พวกพระก็เปิดโรงเรียนเปิดวิทยาลัยสอนหนังสือเพื่อเสริมสร้างกําลังให้แก่พวกศักดินาซากเดนทันที ที่พวกพระช่วยศักดินาก็เพราะศักดินาเลี้ยงดูพระมีเงินเดือนเงินปี ให้และพระมีโอกาสยุ่งในการเมืองด้วย แต่ระบบใหม่