หน้า:โฉมหน้าศักดินาไทย (9th ed).pdf/43

หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
 ๗๐  โฉมหน้าศักดินาไทย

อื่นๆ ฐานะของทาสเป็นเสมือนเครื่องมือในการทํามาหากินอย่างหนึ่ง กล่าวคือเป็นเครื่องมือที่พูดได้ (Talking tool) ทาสมิได้มีชีวิตอยู่ในฐานะเป็นคน หากมีชีวิตอยู่ในฐานะเป็นปัจจัยแห่งการผลิตเหมือนกับไถเหมือนกับคราดหรือสัตว์เลี้ยง การเป็นทาสมิได้เป็นโดยการขายตัวเหมือนทาสสมัยศักดินา หากเป็นทาสโดยการกําหนดของผู้มีอำนาจ กล่าวคือเมื่อชาติกุลหนึ่งไปรบแย่งชิงผลประโยชน์กับอีกชาติกุลหนึ่งและได้ชัยชนะ เชลยทั้งมวลที่จับมาได้ก็จะถูกกดลงเป็นทาส เป็นสมบัติของผู้ชนะ (ทั้งนี้แทนการประหารที่เคยทํามาในสมัยปลายยุคบุพกาล ซึ่งอันนี้ เป็นลักษณะก้าวหน้าอย่างหนึ่งของระบบทาส) พวกเชลยที่ถูกกดลงเป็นทาสเป็นเครื่องมือในการทํามาหากินของฝ่ายผู้ชนะเหล่านี้ จะไม่มีวันกลับคืนเป็นไทได้อีกเลย ลูกเต้าทั้งหญิงชายที่เกิดใหม่ก็ตกเป็นสมบัติของนายทาสเหมือนลูกวัวลูกควายที่นายทาสเลี้ยงไว้ฉะนั้น นายทาสมีสิทธิที่จะทําอะไรกับทาสก็ได้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะขายหรือฆ่า การเป็นทาสจึงเป็นโดยทางชนชั้น โดยสืบสกุลจะเปลี่ยนชนชั้นไม่ได้

ในการผลิต ผลิตผลทั้งหมดที่พวกทาสทําได้บนผืนดินตกเป็นของนายทาสโดยสิ้นเชิง นายทาสจะตั้งโรงเลี้ยงเพื่อหุงหาให้ทาสกินเป็นรายมื้อเหมือนให้อาหารสัตว์ หรือไม่ก็แจกข้าวปลาให้พวกทาสได้กินพอยังชีพเท่านั้น สิทธินอกจากการกินให้มีแรงแล้ว พวกทาสไม่มี ทรัพย์สินส่วนตัวของทาสก็มีไม่ได้เลยแม้แต่น้อยเช่นเดียวกัน

ในสมัยสังคมทาส มนุษย์จึงแบ่งเป็นสองชนชั้นกล่าวคือ ชนชั้นนายทาส (Slave Master) และชนชั้นทาส (Slave) สังคมของนายทาสเป็นสังคมที่หรูหราฟุ่มเฟือยคุกรุ่นไปด้วยกามารมณ์ เพราะพวกนี้ ไม่ต้องทําอะไรเลยจริงๆ พวกนายทาสมีเวลาแต่งโคลงกลอน ถกเถียงปัญหาทางปรัชญา ฯลฯ อย่างเต็มที่ ความเจริญทางปัญญา