หน้า:2554-4726 (Public Prosecutor v. Tangnopphakun).pdf/14

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
 (๓๑ ทวิ)
สำหรับศาลใช้
 
ตราครุฑ
ตราครุฑ
– ๑๔ –

๐๘๑๓๔๙๓๖๑๕ และอีก ๑๕ นาทีเมื่อเวลา ๑๒.๔๕ นาฬิกา กลับไปใช้กับซิมการ์ดโทรศัพท์เคลื่อนที่หมายเลข ๐๘๕๘๓๘๔๖๒๗ โดยเป็นการส่ง SMS และเมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๓ เมื่อเวลา ๑๑.๓๖ นาฬิกา ใช้งานกับซิมการ์ดโทรศัพท์เคลื่อนที่หมายเลข ๐๘๕๘๓๘๔๖๒๗ โดยเป็นการส่ง SMS จากนั้นอีก ๑๔ นาทีเมื่อเวลา ๑๑.๕๐ นาฬิกา ใช้งานกับซิมการ์ดโทรศัพท์เคลื่อนที่หมายเลข ๐๘๑๓๔๙๓๖๑๕ และอีก ๔๔ นาทีเมื่อเวลา ๑๒.๓๔ นาฬิกา กลับไปใช้กับซิมการ์ดโทรศัพท์เคลื่อนที่หมายเลข ๐๘๕๘๓๘๔๖๒๗ โดยเป็นการส่ง SMS เมื่อจำเลยรับว่า เป็นผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่เครื่องดังกล่าวแต่เพียงผู้เดียว จึงเป็นการยากที่บุคคลอื่นจะนำโทรศัพท์เคลื่อนที่เครื่องดังกล่าวไปส่งข้อความได้ และเวลาการใช้งานของโทรศัพท์เคลื่อนที่เครื่องดังกล่าวเป็นเวลาที่ใกล้เคียงกันกับเวลาที่มีการส่งข้อความทั้งสี่ครั้งตามฟ้อง ทั้งเวลาการใช้งานของโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งสองหมายเลขดังกล่าวก็ไม่ได้ใช่เวลาเดียวกัน และไม่เคยใช้งานในเวลาที่ซ้ำกัน โดยเวลาก่อนและหลังการใช้งานของซิมการ์ดโทรศัพท์เคลื่อนที่หมายเลข ๐๘๑๓๔๙๓๖๑๕ มีระยะเวลาห่างกันมากกว่า ๑๐ นาที ซึ่งเป็นเวลานานเพียงพอที่จะเปลี่ยนซิมการ์ดจากหมายเลขหนึ่งเป็นซิมการ์ดของอีกหมายเลขหนึ่งได้ ตามพฤติการณ์จึงน่าเชื่อว่า มีการเปลี่ยนซิมการ์ดใส่โทรศัพท์เคลื่อนที่เครื่องดังกล่าวเพื่อกระทำผิดในคดีนี้โดยไม่มีการแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือขโมยหมายเลขประจำเครื่องหรือหมายเลขอีมี่ตามที่จำเลยกล่าวอ้าง ส่วนที่จำเลยนำสืบอ้างว่า โทรศัพท์เคลื่อนที่เครื่องดังกล่าวเสียในช่วงเดือนเมษายน ๒๕๕๓ และจำเลยนำไปซ่อม อันอาจทำให้มีข้อสงสัยได้ว่า มีผู้นำโทรศัพท์เคลื่อนที่ของจำเลยไปใช้ในช่วงเวลาที่ซ่อม หรือร้านซ่อมโทรศัพท์อาจแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือขโมยหมายเลขประเครื่องหรือ

/หมายเลข