หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
Vol. 1
10.
Bangkok Recorder.

แกะอยู่ประมาณศัก ๒๐ ล้านตัว. แลแกะ ๒๐ ล้านนั้น, ถ้าจะคิดตัวแกะยาวสองศอกทุกตัว ๆ, แลเอาแกะนั้นมาเรียงตามยาวให้ชิดกันติดกันเข้าทั้งหมด, แกะ ๒๐ ล้านตัวนั้นก็จะไปไกลตั้งแต่เมืองนี้ไปก็จะไปถึงเมืองกาลาป๋า.

จะว่าดว้ยม้าในเมืองอารับ. ม้าในเมืองนั้นงามดีนัก, พวกอารับนั้นเคยเอาไปฃายในเมืองบัมเบนั้นมากทุกปี. ลางปีก็ฃายมากประมาณสามพันตัว. เจ้าเมืองบัมเบนั้นเคยซื้อปีละพันตัวสำหรับจะให้พวกทหารขี่, แต่ปีกลายนี้เจ้าเมืองบัมเบนั้นก็ชื้อแต่รอ้ยห้าสิบตัว. ถ้าจะนับปีที่ลว่งกอ่นปีกลายนี้ไปห้าปีนั้น, ราคาที่ซื้อม้าในเมืองบัมเบนั้น, ก็คิดได้ปนราคาซื้อปีละรอ้ยหาบ ๆ.

ที่นี้ จะสำแดงให้ผู้อ่านผู้ฟังทั้งปวงแจ้งว่า, โรคธอระพิศม์ในเมืองไทนี้ทำประการใด, จึ่งจะตัดเสียให้ฃาดได้, อย่าให้บังเกิดต่อไปเลย.

ถ้ามีเสือทวีขึ้นนัก, กำเริบก้ลาหารไม่กลัวผู้ใด, เข้ามาอยู่ทั่วทั้งแผ่นดิน, มาลอ้มรอบอยู่ทุกบ้านทุกตำบล, กัดมนุษนั้นทุกคน, คือบิดามารดาแลลูกหลานญาติพี่นอ้งนั้น, ตายมากหนักหนาปีละหลาย ๆ พันมี, คนจะปราถนาฆ่าเสือเหล่านั้นเสียมากศักเทาใด. ถ้ามีผู้ใดผู้หนึ่งประกอบไปดว้ยวิที, อาจจับเสือร้ายทั้งหลายนั้น, ฆ่าเสียได้, ไม่ตอ้งเสียศักหนิดหนึ่ง, ไม่เจบไม่ปวดไม่ตาย, ถ้าจับได้ดั่งนั้นจริง, คนทั้งปวงจะมาออ้นวอนผู้นั้นให้ช่วยจับประหารเสียมากศักเท่าใด. เสือนั้นมีอุปมาฉันใด, มีอุปไมเหมือนฝีดาษที่ร้ายกาจกระทำให้คนตายเสียมากกว่ามากนั้น. คนที่เปนฝีดาษ, ให้เจบปวดตายหน้ากลัวนักในเมืองไทนี้, จะมีใครอาจนับได้, ว่าปีละเท่าไร. ที่ไม่ตายดว้ยฝีดาษนั้นก็มี, แต่ให้เปนโรคต่าง ๆ ดว้ยพิศม์ฝีดาษนั้นบ้าง, ที่ให้แฃนเสียฃาลีบ, ตาบอด, เปนฝีในอกในท้องนั้น, ก็มากนักใครอาจนับได้. ฝีดาษนั้นบังเกิดขึ้นทุกบ้านทุกเรือนทั้งลาวทั้งมอนทั้งจีนทั้งยวนทั้งทวาย, มีพวกไทเปนต้น, รอดบ้างตายบ้าง. แท้จริงคนชาวเมืองนี้เปนอันตรายดว้ยโรคฝีดาษนั้นมากกว่ามากนักไม่มีใครอาจพรรณนาได้.

จึ่งมีคำบุฉาว่า, ไม่มีวิทีสิ่งใดที่จะกันอันตรายดว้ยโรคอย่างนี้บ้างแล้วหฤๅ. วีสัชนาว่าวิทีมีอยู่, ที่มีฤทธิมีเดชมากนัก, ที่ไม่ตอ้งเสียทรัพย์, แลไม่เจบไม่ปวดไม่เปนอันตราย. ทั้งชายทั้งหญิงแลเดกเลกทั้งปวง, ก็ขอได้โดยง่าย, เอาแต่ครั้งเดียว. ของสิ่งนั้นใช้ได้จนตลอดอายุศม์. วิทีอันนี้พวกอังกฤษ, แลพวกอเมริกาเปนหลายโกติคน, ก็ได้ทดลองวิทีนี้ดูมากว่า ๔๖ ปีแล้ว. ทำเนียมประเทษอังกฦษแลทั่วประเทษยุรบแลอเมริกาใช้แต่วิทีนี้. เหตุดั่งนี้โรคธระพิศม์ในประเทษเหล่านั้น, จึ่งไม่ใค่รจะมีเชื้อ, เหลืออยู่บ้างเลกนอ้ย. แต่คนที่ไม่เอาวิทีนี้ใช้, จึ่งเปนโรคธระพิศม์นั้นบ้าง.

บัดนี้ ข้าพเจ้าจะกล่าวโดยพิษดารตรง ๆ ว่าดว้ยวิทีที่จะกันฝีดาษนั้นเปนยังไร. อันวิทีนั้น, คือ บุพโพฝีพันอย่างหนึ่ง, แต่เดิมเกิดขึ้นที่นมแม่โค, จึ่งเอาบุพโพฝีที่นมโคนั้น, มาปลูกที่คนที่ยังไม่เปนฝีดาษ. เมื่อจะปลูกนั้นเอามีดสกิดเข้าหนิดหนึ่ง, เอาบุพโพโคใส่ที่ใต้ผิวหนังตามรอยมีดนั้น. เมื่อขณะปลูกนั้นก็เจบเท่ายุงกัดเท่านั้น. ได้สองวันสามวันก็แดงขึ้น. ครั้นถึงแปดวัน, ก็เปนเมดฝี, มีน้ำบุพโพใส ๆ. ครั้นถึง ๑๑ วัน ๑๓ วัน, ก็ยุบลงแห้งไปเอง. ไม่ตอ้งกินยุกยาแลปิดยาเลย. ปลูกคราวหนึ่ง ๑๙ คน ๒๐ คนก็จะมีตัวรอ้นบ้างเลกนอ้ยศักคนหนึ่ง, ถึงกระนั้น, ก็ไม่ตอ้งกินยาไม่ตอ้งอดของแสลง. ฝีจะออกเท่าแผลปลูกเท่านั้นเอง. วิทีนี้แลเปนที่กันฝีดาษได้มั่นคงนัก. ถ้าจะปลูกต่อไป, ก็ให้เอาบุพโพที่ปลูกขึ้นแล้วแต่ใส ๆ อยู่, เอามาปลูกลงที่คนอื่น, ก็เปนต่อไป, ใช้ไปได้อีกหลายพันชั่ว, ไม่กลับกลายเปนฝีดาษฝีร้าษเลย. เรียกว่าพันฝีโคอยู่อย่างนั้น. ผู้ใดมาฃอให้เราปลูก, เราก็จะปลูกให้, ไม่เอาวัถุสิ่งใดเลย.

ถ้าเหนแผลนั้นมีหนองฃาวเหลืองปนกันอยู่, แต่หนองนั้นไหลไม่เหนียวติดอยู่ที่แผล, เนื้อแผลนั้นงอกแดงขึ้นเปนเมดมะระ, ก็พึ่งเข้าใจเถิดว่า, แผลนั้นคอ่ยยังชั่วเข้าแล้ว. เมื่อเมดนั้นงอกขึ้นเสมอกับเนื้อที่ดี, ริมเนื้อที่ดีนั้นก็เปนผิวหนังขาว ๆ ขึ้นออ่น ๆ กอ่น, แล้วกลับหนาขึ้นกว้างออกไปทุกวันจนเตมทั้งแผล. แผลเช่นนี้ตอ้งชำระดว้ยน้ำฃ่าบู่วันละสองหน, แล้วจึ่งเอาน้ำฌะที่๑ที่๒ก็ได้, ในจดหมายเหตุใบที่สองทำฌะไปเถิด. แล้วเอาขี้ผึ้งแฃงส่วน ๑, น้ำมันมะพร้าว๒ส่วนหุงละลายให้เข้ากัน, แล้วเอาขี้ผึ้งนั้นทากระดาดหนังก็ได้, ทาผ้า