หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
6.
Vol. 1
Bangkok Recorder.

นั้นคิดเปนเสจ์, ทั้งค่าจ้างต่าง ๆ, ทั้งต่อ, ทั้งค่าไม้, จนแล้วลงอยู่ในน้ำ, เปนราคาเงินถึง ๗๐๕๐๐ รูเปีย. รูเปียหนึ่งนั้น, ถ้าแม้นจะคิดเปนสามสลึงเงินไท, เจ๊ดหมื่นห้ารอ้ยรูเปียนั้น ก็คิดเปนเงินบาทไท, ได้ถึง ๕๒๘๗๕ บาท. อีกอย่างหนึ่ง, คนที่สืบราคานั้นบอกว่า, ปีหนึ่งจะตอ้งเสียเงินอีกปีละ ๓๙๕๐๐ รูเปีย, เปนเงินบาทคิดได้ถึง ๒๙๖๒๕ บาท, คือ คาจ้างซ่อมแปลงกำปั่นบ้าง, คือ ค่าจ้างนายกำปั่นแลลูกเรือบ้าง, คือ ซื้อสเบียงอาหารกินบ้าง, คือ ซื้อพืนที่ใส่ไฟบ้าง. ราคาที่เราว่ามานี้ เปนราคากำปั่นไฟลำหนึ่ง.

อนึ่ง ข่าวเมืองอเมริกาว่า เดือน ๔ ขึ้น ๑๔ ค่ำ, เจ้าเมืองอเมริกากับขุนนางใหญ่หลายคนลงกำปั่นไฟจะไปเที่ยวเล่นที่แม่น้ำปะโตมัก. ในกำปั่นไฟนั้นมีปืนใหญ่อยู่บอกหนึ่ง, ปืนใหญ่นั้นใช้ลูกหนัก ๑๗๓ ชั่งจีน. นายกำปั่นจะยิงปืนบอกนั้นเล่น, ยิงหนหนึ่งไม่เปนอันตราย, หนที่สองนั้นปืนก็แตก ถูกขุนนางใหญ่ตายสองคน, ขุนนางนอ้ยสองคน กับลูกเรือสองสามคน. เมื่อกอ่นปืนจะแตกครู่หนึ่งนั้น, เจ้าเมืองอเมริกายืนอยู่ในที่ขุนนางใหญ่ถูกปืนตายนั้น, แต่ทว่า มีธุระดว้ยเหตุใดเหตุหนึ่ง จึ่งไปจากที่นั้น. เหตุดั่งนั้น เจ้าเมืองอเมริกาจึ่งไม่ตาย. ครั้นลว่งมาได้สามวัน, ก็เอาสภขุนนางใหญ่ไปฝัง. เมื่อฝังสภแล้ว, เจ้าเมืองอเมริกาขึ้นขี่รถจะกลับไปวัง, ม้าที่ลากรถนั้นก็ตกใจดว้ยเหตุใดเหตุหนึ่ง จึ่งภารถวิ่งไปในหนทางหน้ากลัวนัก. บังเหียนม้านั้นก็ขาด จะชักม้านั้นก็มิได้. ม้าก็ภารถวิ่งไปเกือบจะถึงที่หนึ่งที่มีหินมาก, ถ้ารถจะถูกหินนั้นแล้ว ก็คงจะฉิบหายหมด. แต่ทว่า ม้านั้นมันวิ่งไป ก็อยุดอยู่ครู่หนึ่ง, ก็มีคนก้ลาวิ่งเข้าไปจับเอาปากม้านั้นไว้. ม้านั้นก็มิได้วิ่งไปอีกได้, เจ้าเมืองอเมริกานั้นก็มิได้เปนอันตราย.

ปีเถาะ เดือนสิบ ข้างขึ้นนั้น, มหากระษัตรเมืองอังกฤษเสดจ์ออกจากเมืองไปเยี่ยมเจ้าเมืองฝรั่งเศศ. ในสามรอ้ยปีที่ลว่งไปกอ่นนั้น, กระษัตรสองนครนั้นไม่ได้ไปเยี่ยมเยียนกันเลย. แลเมื่อกระษัตรอังกฤษเสดจ์ไปเยี่ยมกระษัตรฝรั่งเศศ, แลอยู่ในเมืองฝรั่งเศศศักเจดวัน, แล้วก็เสดจ์ออกจากเมืองฝรั่งเศศไปเยี่ยมกระษัตรเมืองเบลเชียม. เสดจ์อยู่ในเมืองเบลเชียมนอ่ยหนึ่ง, แล้วก็เสดจ์ออกจากเมืองเบลเชียมไปเยี่ยมกระษัตรเมืองยามะนี. อยู่ในเมืองยามะนีนอ่ยหนึ่ง, แล้วก็เสดจ์กลับไปเมืองอังกฤษดั่งเก่า. แลข่าวว่า ในเดือนสิบ ปีนี้ กระษัตรเมืองฝรั่งเศศจะเสดจ์ไปเยี่ยมกระษัตรเมืองอังกฤษตอบบ้าง. ที่กระษัตรจะไปเยี่ยมซึ่งกันแลกันดั่งนี้ ก็ดีกว่าจะกระทำซึ่งสงครามกัน.

ในประเทษฮินดูสถาน ข้างทิศเหนอ มีเมือง ๆ หนึ่งชื่อ ฆวาลิโอร. เมื่อปีกลายนี้ ก็เกิดสงครามแก่พวกอังกฤษ. ปีเถาะ เดือนญี่ ขึ้นแปดค่ำก็เกิดรบพุ่งกันมากนัก, พวกอังกฤษได้ไชยชำนะ, แต่คนตายในที่รบนั้นเปนอันมาก. ฝ่ายพวกอังกฤษนั้นตายร้อยหกคน, ที่ถูกเปนแผลแต่ไม่ตายหกร้อยแปดสิบสี่คน. ฝ่าชาวฆวาลิโอร, ที่ตาย แลไม่ตายที่เปนแผลนั้น มิได้กำหนด, แต่ว่ามาก. เดี๋ยวนี้ เมืองฆวาลิโอรนั้นขึ้นแก่อังกฤษ. อนึ่ง มีเมืองอีกสองเมืองที่ขึ้นแก่อังกฤษในปีกลายนี้, คือ เมืองซินดะ หนึ่ง, อยู่ที่ปากแม่น้ำอินดัษเหนือเมืองซูรัด, แลเมืองไกตูล อยู่ในประเทษฮินดูสถานข้างทิศเหนือ, เปนเมืองเลกหนึ่ง.

เดือนแปด ปัถมาสาท ขึ้นสามค่ำ, มีหนังสื่อฃ่าวตีภิมในเมืองจีนว่า, มีอังกฤษคนหนึ่งชื่อว่า ดาวิษ จะมาเปนเจ้าเมืองในเมืองฮงคง. เจ้าเมืองเก่าชื่อว่า โปตินเชร ซึ่งแต่ก่อนเปนทูต, นั้น จะกลับไปเมืองอังกฤษแล้วไม่ช้า. อนึ่ง พ่อค้าอังกฤษที่อาไศรยอยู่ในเกาะมกาวแต่ก่อนนั้น, เดี๋ยวนี้เฃาฃนเฃ้าของจะไปอาไศรยอยู่ในเมืองฮงคง. อนึ่ง มีคนหนึ่งชื่อว่า กูชิง เปนทูตมาแต่เมืองอเมริกา มาถึงเมืองจีนแล้ว. อนึ่ง มีทูตฝรั่งเศศจะมาเมืองจีน แต่ว่าเฃามายังไม่ถึง. อนึ่ง เมื่อก่อนเดือนแปด ปถมาสาทนั้น กำปั่นไทมาถึงเกาะมกาวแล้ว

เดือนแปด ปถมาสาท แรมห้าค่ำ, เฃาตีภิมหนังสือฃ่าว ในหนังสือฃ่าวนั้น, ว่า มีกำปั่นไฟลำหนึ่งมาแต่เมืองฮงคง, มาถึงเมืองใหม่ มาเรวนัก ๙ วันถึง, เมื่อมานั้น ทวนลมด้วย. แลโปตินเชร ทูตนั้น ก็มาในกำปั่นไฟลำนั้นด้วย. แลทูตฝรั่งเศศที่จะไปเมืองจีนนั้น, ก็มาถึงเมืองซิงกะโประก่อนวันที่ตีภิมหนังสือฃ่าวนี้.