หน้า:Kwaidan; Stories and Studies of Strange Things - Hearn - 1904.djvu/130

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว

พระสูตร และไม่มีสิ่งใดปรากฏเลย จนกระทั่งพ้นมุสิกยาม[1] และแล้ว ในทันใด ร่างของโอโซโนะก็เลือนเข้ามาอยู่หน้าตู้ลิ้นชัก ใบหน้าของนางดูละห้อย และนางเอาแต่จ้องสายตาไปยังตู้ลิ้นชักนั้น

ท่านนักบวชเปล่งบทสวดศักดิ์สิทธิ์ซึ่งบัญญัติไว้สำหรับกรณีเช่นนั้น และแล้ว จึงกล่าวโดยเรียกขานร่างนั้นด้วยไคเมียว[2] ของโอโซโนะว่า "อาตมามาที่นี่เพื่อช่วยเหลือสีกา บางทีในตู้ลิ้นชักนั้นจะมีอะไรบางอย่างที่เป็นเหตุให้สีการู้สึกเป็นห่วง ขอให้อาตมาได้ลองค้นหาออกมาให้สีกาเถิดหนา" ร่างนั้นดูจะให้ความยินยอมด้วยการสั่นศีรษะเบา ๆ และนักบวชจึงลุกขึ้นไปเปิดลิ้นชักบนสุด มันว่างเปล่า ท่านจึงไล่เปิดลิ้นชักชั้นที่สอง ที่สาม และที่สี่ โดยค้นหาอย่างถี่ถ้วนไปตามด้านหลังและด้านใต้ลิ้นชักเหล่านั้น ท่านยังตรวจตราด้านในหีบอย่างถ้วนถี่ ก็หาพบอันใดไม่ แต่ร่างนั้นก็ยังคงจ้องมองด้วยความละห้อยเหมือนก่อน "นางจะประสงค์อันใดหนอ" นักบวชใคร่ครวญ ทันใด

  1. ตามวิธีนับยามแบบญี่ปุ่นโบราณ มุสิกยาม (เนะโนะโกกุ) คือ ชั่วโมงแรก ตรงกับช่วงเวลาระหว่างเที่ยงคืนของเรากับ 2 นาฬิกาเช้า เพราะแบบญี่ปุ่นโบราณนั้น แต่ละชั่วโมงจะเท่ากับ 2 ชั่วโมงแบบสมัยใหม่
  2. ไคเมียว คือ ชื่อในทางพุทธศาสนาซึ่งตั้งขึ้นหลังจากตายแล้ว หรือชื่อทางศาสนา อันมอบให้แก่ผู้ตาย เมื่อพูดกันโดยเคร่งครัดแล้ว ความหมายของคำนี้ คือ ศีลนาม (ดูงานเขียนของข้าพเจ้าที่ชื่อ "เดอะ ลิเทอเรเจอร์ ออฟ เดอะ เดด" ใน เอ็กโซทิกส์ แอนด์ เรโทรสเปกทีฟส์)
106