ชื่นชมนั้นทำให้นางหน้าแดงเรื่อ แต่เขาละสายตาไปจากนางมิได้เลย และเขาก็ได้ลิ้มชิมสุราอาหารทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้า ฝ่ายมารดาหญิงจึงพูดขึ้นว่า "พ่อผู้กรุณา เนื่องจากพ่อน่าจะต้องลมเย็บเฉียบจนหนาวเหน็บ เราจึงหวังเป็นอย่างยิ่งเหลือเกินว่า พ่อจะลองกินลองดื่มมากกว่านี้สักนิด ถึงแม้อาหารชาวไร่ชาวนาของเราจะเป็นอย่างทรามที่สุดก็ตาม" ดังนั้น เพื่อเอาใจผู้ชรา โทโมตาดะจึงกินและดื่มเท่าที่ตนจะทำได้ แต่เสน่ห์ยวนใจของหญิงสาวผู้เขินอายจนใบหน้าแดงก่ำนั้นยังเกาะกุมเขาไม่สร่าง เขาจึงพูดกับนาง และพบว่า วาจาของนางนั้นหวานฉ่ำเหมือนโฉมหน้าของนาง นางอาจได้รับการเลี้ยงดูมาในภูผาป่าดง แต่ในกรณีเช่นนี้ บิดามารดาคงต้องเคยเป็นบุคคลชั้นสูงมาสักระยะ เพราะนางเอื้อนเอ่ยและเคลื่อนไหวดุงดังสตรีมีศักดิ์ ในทันใด ความยินดีในหัวใจก็ดลใจให้เขากล่าวแก่นางเป็นบทกลอน ซึ่งเป็นเชิงไถ่ถามอยู่เช่นกัน ว่า
- "ทาซูเนะสึรุ
- ฮานะ คะ โทเตะ โคโซะ
- ฮิ โวะ คูราเซะ
- อาเกนุ นิ โอโตรุ
- อากาเนะ ซาซูรัง"
"กลางทางเยี่ยมมารดา | พบบุปผาพาหลงใหล | |
จึงพักกายพักใจ | อยู่ที่นี่จนสุดวัน | |
ฉันใดนะฉันใด | ยังไม่แจ้งแสงตะวัน | |
เห็นแสงแดงเรื่อกัน | ใครตอบได้ไม่รู้เลย"[1] |
- ↑ บทกลอนนี้อาจตีความได้ 2 แง่ และบางถ้อยคำ