หน้า:President's Daily Brief (1974-02-26).pdf/4

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
สำหรับประธานาธิบดีเท่านั้น
อินเดีย–อิหร่าน

อินเดียกับอิหร่านได้ทำความตกลงทางการค้าครั้งสำคัญ ว่า   จะมีส่วนช่วยสร้างความมั่นใจว่า [ทุกอย่าง] จะเป็นไปตามข้อกำหนดเรื่องน้ำมันของอินเดีย แล้วอินเดียจะจัดหาซีเมนต์ ผลิตภัณฑ์เหล็ก รถราง เครื่องจักร และเรือประมง ให้เป็นการตอบแทน

อินเดียยังจะได้รับสินเชื่อสองรายการ รวม 370 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับขยายปฏิบัติการทำเหมืองแร่เหล็กและการผลิตอะลูมินา เมื่อโครงการเหล่านี้แล้วเสร็จ อินเดียจะจัดหาก้อนแร่ 2.4 ล้านตัน กับอะลูมินา 100,000 ตัน ให้แก่อิหร่านรายปี เป็นเวลา 20 ปี

ทั้งปริมาณน้ำมันดิบที่เกี่ยวข้อง และข้อกำหนดสินเชื่อสำหรับเงินกู้นั้น ไม่เป็นที่เปิดเผย ถึงแม้รัฐมนตรีเศรษฐกิจอิหร่านจะอ้างว่า ความตกลงนี้ไม่เกี่ยวกับราคา "สัมปทาน" น้ำมันใด ๆ แต่ค่าใช้จ่ายคงจะต่ำกว่าราคาที่ลงไว้ทีเดียว อิหร่านจัดหาการนำน้ำมันดิบอินเดียเข้าประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้วถึงร้อยละ 60–65

อิหร่านยังตกลงจะช่วยหนุนเงินในการขยายโรงกลั่นของอินเดียที่มัทราส เพื่อให้จุได้จาก 2.8 ล้านตัน เป็น 3.5 ล้านตัน ต่อปี โรงกลั่นนี้มีรัฐบาลอินเดีย, การน้ำมันแห่งชาติอิหร่าน, และการน้ำมันสากลอเมริกัน เป็นเจ้าของร่วมกัน

อีกประการ ปัญหาดุลการชำระเงินของอินเดียจะทุเลาลงอย่างยิ่ง เพราะการส่งออกไปอิหร่านในอนาคตจะทำให้อินเดียสามารถชำระหนี้บางส่วนของตนในการนำน้ำมันเข้า กระนั้น การจัดหาเหล็ก 65,000 ตัน และซีเมนต์ 300,000 ตัน ให้แก่อิหร่าน อาจทำให้อินเดียซ้ำเติมความขาดแคลนสินค้าทั้งสองอย่างในประเทศซึ่งวิกฤติอยู่แล้วได้

จากจุดยืนของชาห์ การค้าขายกับอินเดียมีจุดเด่นที่น่าสนใจอยู่ประมาณหนึ่ง ในอนาคตอันใกล้นี้ การค้าขายจะทำให้อิหร่านมีสินค้าอุตสาหกรรมบางอย่างซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างยิ่งยวด ทั้งจะเพิ่มพูนความสนใจของเตหะรานในปฏิบัติการโรงกลั่นในต่างแดน ส่วนในระยะยาว การค้าขายนี้จะทำให้อิหร่านมีแหล่งวัสดุสำคัญสำหรับแผนการอันทะเยอทะยานของอิหร่านที่จะผลิตเหล็กและอะลูมินัม แผนการเหล่านี้ทำให้อิหร่านจำต้องเป็นผู้ส่งผลิตภัณฑ์เหล็กและอะลูมินัมออกเป็นรายสำคัญ อันเป็นเป้าหมายที่อาจทำให้เตหะรานกับนิวเดลีต้องมาค้าขายแข่งกันในวันข้างหน้า

1


สำหรับประธานาธิบดีเท่านั้น