หน้า:Siam (IA siampeepsatmany00youn).pdf/110

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
สอดส่องหลายท้องถิ่น

กับตน พระเจ้าแผ่นดินจะทรงเปิดศึกกับมันผู้นั้น แล้วใช้กำลังช่วงชิงเอาช้างไป

พูดกันให้ชัดแล้ว สัตว์อย่างช้างสีเผือกนั้นไม่มีอยู่จริง เจ้าสัตว์นี้หาได้มีสีเผือกผ่องแท้ ๆ ไม่ เพียงแต่มีสีอ่อนกว่าช้างทั่วไปสักหน่อย บางทีก็มีสีบาทบริก[1] ขุ่น ๆ และบ้างก็มีขนสีขาวที่หางและหัวเล็กน้อย

ข่าวการพบช้างเผือกก่อให้เกิดความยินดีอย่างใหญ่หลวงแก่ปวงชนและพระเจ้าแผ่นดินเสมอ พระเจ้าแผ่นดินทรงส่งคณะขุนนางและเจ้าชายไปยังสถานที่ซึ่งพบสัตว์นั้น และ ณ ที่นั้น ช้างจะถูกล่ามไว้ด้วยเชือกเส้นไหม คณะผู้แทนพระองค์จะระวังรักษาสัตว์สี่เท้าตัวนี้ไว้ระหว่างที่หมอช้างมืออาชีพสอนให้มันรู้จักประพฤติตนเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คนและในท้องถนนของเมือง ฝูงชนทั่วทุกสารทิศในแว่นแคว้นจะพากันมาชมช้างและนำของรับขวัญมาให้

ขณะเดียวกัน ในราชธานี จะมีการสร้างราชวังขึ้นอย่างฉับไวให้แก่เจ้าสัตว์สูงส่งนั้น ครั้นราชวังแล้วสิ้น และการฝึกช้างให้เชื่องแล้วเสร็จ กระบวนเสด็จจะออกไปพบช้างและนำมันกลับนิวาสสถาน พระเจ้าแผ่นดินจะทรงเป็นประธานในกระบวน และเมื่อทรงพบช้างแล้ว จะทรงคุกเข่าต่อหน้าช้าง และประทานของรับขวัญแก่มัน จากนั้น จะทรงหันกลับและนำขบวนหวนคืนสู่ราชธานี ณ ที่พำนักใหม่ของช้าง จะมีตู้บรรจุเครื่องแต่งกาย พร้อมผ้าคลุมทำจากกำมะหยี่และผืนไหม ถักทอไปด้วยสุวรรณและอัญมณี ที่ศีรษะช้างจะมีแผ่นทองจารึกนามและยศติดอยู่ ช้างยังมีข้าทาสกลุ่มหนึ่ง กับนักบวชคณะหนึ่ง นักดนตรีวงหนึ่ง รวมถึงนางรำจำนวนหนึ่ง ทั้งหมดแยกไว้เป็นพิเศษเพื่อสนองคำบัญชาและความบันเทิงของช้าง ยามใดที่ช้างใคร่นอน นักบวชจะร้องเพลงกล่อมนอน[2] 

  1. Merriam-Webster (n.d.) ว่า บาทบริก คือ อิฐที่ไม่เผา ทำจากวัสดุเนื้อซิลิกา ใช้ทำความสะอาดหรือขัดเงาโลหะ ดู รูปที่ 3
  2. มักแต่งเป็นฉันท์ และปรากฏชื่อเรียกหลายอย่าง เช่น ฉันท์กล่อมช้าง ฉันท์ดุษฎีสังเวย ฯลฯ
76