การจ่ายเงินราว 5 ชิลลิง[1] ให้แก่นายทะเบียนเพื่อการทำหน้าที่นี้ ก่อนการพิจารณาคดีด้วยไฟครั้งใด ๆ ก็จะมีคำนมัสการคล้ายคลึงกันและมีค่าธรรมเนียมทำนองเดียวกัน[2] คำนมัสการอย่างหลังนี้จะวิงวอนเทพยดาให้กระทำร้ายแก่คนผู้มีความผิด นอกเหนือไปจากข้อความรื่นรมย์อื่น ๆ ที่นายทะเบียนร่ายนั้น มีการร่ายถ้อยคำดังต่อไปนี้
"ขอเทพไท้บันดาลให้สัตว์นรกดุร้ายซึ่งคอยรังควานผู้คนบนพื้นพิภพนี้ผุดขึ้นมาและเผยโฉมต่อสายตาของมันผู้กล่าวถ้อยเท็จ ให้มันกลัวจนตัวสั่นขวัญแขวน ขอให้ผิวหนังมันพุพอง ให้มันสยองจนขนหัวลุก ให้ความเกรงจะเกิดภัยอันฉุกละหุกปลุกเร้าสีหน้ามัน ให้แขนขาสั่นระรัวเมื่อมันเห็นแสงเพลิงปะทุ[3]
"โอ เทพอัคคีผู้มีความรุ่งโรจน์และอานุภาพรุ่งเรืองยิ่ง จงวิ่งเข้าแผดและเผามันยามมันก้าวเข้าสู่เพลิง[4]
"โอ เทพอัคคีผู้ทรงรัศมีและอานุภาพในกองกูณฑ์เหล่านี้ จงคลอก จงเผา จงผลาญมัน เพื่อให้ความผิดของมันสำแดงแจ้งชัดแก่ทุกสายตา"[5]
- ↑ พระอัยการลักษณะพิสูจน์ดำน้ำลุยเพลิง มาตรา 7 (แลงกาต์, 2481, น. 365) ว่า ค่าอ่านคำสัตยาธิษฐานในการดำน้ำนั้น เรียกจากโจทก์และจำเลยฝ่ายละ 3 บาท
- ↑ พระอัยการลักษณะพิสูจน์ดำน้ำลุยเพลิง มาตรา 3 (แลงกาต์, 2481, น. 362) ว่า ค่าอ่านคำสัตยาธิษฐานในการลุยเพลิงนั้น เรียกจากโจทก์และจำเลยฝ่ายละ 1 บาท 2 สลึง ขณะที่มาตรา 7 (แลงกาต์, 2481, น. 365) ว่า ค่าอ่านคำสัตยาธิษฐานในการดำน้ำนั้น เรียกจากโจทก์และจำเลยฝ่ายละ 3 บาท
- ↑ พระอัยการลักษณะพิสูจน์ดำน้ำลุยเพลิง มาตรา 11 (แลงกาต์, 2481, น. 373) ว่า "สัตวร้ายเบียนคนบาบี ในพื้นปัตพี อันมีทุกทุ่มนานา ผู้ใดกล่าวเทจ์มารสา จงประจักแก่ตา สท้านพันเอินหวั่นไหว หนังพองสยองเกล้าตกใจ คะคร้ามกลัวไภย แลแสงพระเพลิงรัศมี"
- ↑ พระอัยการลักษณะพิสูจน์ดำน้ำลุยเพลิง มาตรา 11 (แลงกาต์, 2481, น. 373) ว่า "พระเพลิงเริงฤทธิแสงศรี เข้าในอักคี ฃอให้สำแดงพุพอง"
- ↑ พระอัยการลักษณะพิสูจน์ดำน้ำลุยเพลิง มาตรา 11 (แลงกาต์, 2481, น. 373) ว่า "พระเพลิงเรืองฤทธิอันกอง ให้ไหม้พุพอง ให้เหนประจักแก่ตา"