หน้า:Siam (IA siampeepsatmany00youn).pdf/51

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
พุทธประวัติ

พระชนม์ราว 29 ปี ทรงราชยานไปถึงสนามหย่อนพระทัย ทรงเห็นชายผู้หนึ่งทรุดโทรมด้วยอายุ ทั้งอ่อนแอ ยากเข็ญ และลำเค็ญ และทรงขอให้ผู้ขับราชยานอธิบายภาพที่ทรงเห็น สารถีทูลตอบในเรื่องนี้ว่า คนทั้งปวงที่มีชีวิตมาจนสูงวัยย่อมอ่อนแอลงทั้งใจและกาย ดุจเดียวกับซากเก่าน่าสมเพชที่ได้เห็นในถนน อีกวันหนึ่ง ทรงเห็นชายผู้หนึ่งกำลังประสบโรคภัย และสารถีก็ทูลอธิบายอีกว่า คนทั้งหลายต้องประสบความเจ็บปวด ไม่กี่วันถัดมา ทรงเห็นศพ และทรงเข้าพระทัยเป็นครั้งแรกว่า มนุษย์ทุกคนต้องตาย อันเป็นข้อความจริงที่ทรงถูกปิดบังไว้ในช่วงที่ทรงพระเยาว์และเจริญพระชนม์ตลอดมาจนกระทั่งถึงชั่วโมงนั้น

โคตมะเศร้าพระทัยนักเมื่อตระหนักถึงความทุกข์ตรมที่มีอยู่ในโลก และทรงเริ่มตั้งคำถามว่า จะขจัดปัดเป่าสิ่งเหล่านั้นไปได้ทั้งหมดหรือไม่ จึงตัดสินพระทัยว่า จะต้องหลบลี้หนีไปอย่างลับ ๆ แล้วกลับกลายพระองค์เป็นฤๅษี จะทรงอยู่ห่างจากธานีและฝูงชน แล้วเฝ้าดูว่า จะทรงพบหนทางลดทอนความโทมนัสของเพื่อนมนุษย์ได้หรือไม่

ก็ประมาณช่วงนี้เองที่พระโอรสของพระองค์มีประสูติการ พระองค์ทรงรักพระโอรสนี้อย่างสุดพระทัยยิ่ง แต่ก็ทรงเห็นว่า ถ้าจะค้นหาหนทางสู่ความสุขแล้ว ก็ต้องปลดเปลื้องพระองค์เองจากเยื่อใยและความผูกพันทั้งหมดในทางโลก คืนหนึ่ง ทรงเข้าไปในห้องที่พระชายานอนบรรทมอยู่ ณ ที่นั้น ท่ามกลางแสงเหลืองสลัวของตะเกียง พระองค์ทรงเห็นพระโอรสและพระนางผู้มารดา พระหัตถ์ของพระนางวางอยู่บนทารกน้อยอย่างรักใคร่ มีดอกไม้โปรยปรายอยู่บนพื้นและรอบพระแท่น พระองค์ทรงประสงค์จะยกกุมารน้อยเข้ามาสู่อ้อมพระพาหาแล้วจุมพิตเขา

29