หน้า:Siam (IA siampeepsatmany00youn).pdf/52

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
สอดส่องหลายท้องถิ่น

ก่อนเสด็จหนีไป แต่ก็ทรงเกรงว่า จะเป็นการปลุกผู้หลับใหลคนหนึ่งคนใดให้ตื่นขึ้นเสีย จึงทรงมองดูคนทั้งคู่อยู่นานสองนานเป็นกาลครั้งสุดท้ายด้วยสายพระเนตรเปี่ยมรัก และแล้ว ก็เสด็จลี้หนีไปในราตรี มีเพียงฉันนะ ราชสารถี โดยเสด็จ ภายใต้แสงเดือนเพ็ญเดือนกรกฎาคม พระองค์ทรงเร่งตะบึงไป ละทิ้งไว้ซึ่งบ้าน สมบัติ และผู้เป็นที่รัก เพื่อจักได้กลายพระองค์เป็นผู้ไร้วรรณะและคนเร่จร

และแล้ว มารผู้ชั่วร้ายก็ปรากฏกายต่อพระองค์ โดยล่อลวงพระองค์ให้ล้มเลิกแผนการไปสู่ชีวิตสันโดษ มารสัญญาต่อพระองค์ว่า ถ้าทรงหันกลับไปสู่สมบัติพัสถานและความสุขสบายในทางโลกไซร้ จะบันดาลให้พระองค์ได้ทรงครองโลกแต่ผู้เดียวภายใน 7 ทิวา ทว่า หาอาจโน้มน้าวโคตมะได้ไม่ และมารร้ายก็พ่ายแพ้ไป

เจ้าชายและสารถีขับขี่พาหนะกันต่อไปอีกหลายไมล์จนกระทั่งถึงริมฝั่งแม่น้ำแห่งหนึ่ง โคตมะทรงหยุดอยู่ตรงนั้น ชักพระขรรค์ออกตัดปอยผมยาวสลวยแล้วมอบให้ฉันนะ รับสั่งให้เขานำพาพระเกศา ม้าขี่ และเครื่องทรง มุ่งตรงกลับไปยังบ้านเกิดเมืองนอนของพระองค์ เพื่อที่พระญาติวงศ์และมิตรสหายจะได้รู้กันแน่ชัดว่า เกิดอันใดขึ้นกับพระองค์ ฉันนะตัดใจทิ้งนายไม่ลง แต่ก็จำต้องเชื่อฟังพระองค์

เมื่อฉันนะผละไปแล้ว โคตมะทรงเสาะหาถ้ำที่ฤๅษีพำนักกัน พระองค์ประทับอยู่ที่นั่นชั่วเวลาหนึ่ง โดยทรงอดอาหารและกระทำทุกรกิริยาด้วยหวังว่า วิธีนี้จะช่วยให้ทรงพบหนทางที่แท้จริงในการไปสู่ความสุขและความถูกต้องตามคลองธรรม พระองค์ทรงดำเนินพระชนม์ไปโดยไร้อาหารอยู่นานนัก และการทรมานที่ทรงกระทำต่อพระองค์เองนั้นก็รุนแรงหนัก จนวันหนึ่งถึงกับทรงล้มลงโดยไร้เรี่ยวแรง ทุกคนคิดว่า พระองค์สิ้นพระชนม์แล้ว แต่ผ่านไปสักครู่ก็ทรงฟื้นคืน เมื่อทรงได้พระสติกลับมาอีกครั้ง ก็ทรงให้รู้สึกว่า 

30