หน้า:Siam (IA siampeepsatmany00youn).pdf/57

หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
พุทธประวัติ

ทรงมีปัญญาและน่าเลื่อมใสยิ่งกว่าบุรุษคนใดที่พระนางเคยได้พบพาน ผ่านไปสักขณะโคตมะจึงทรงนำข้อความที่มีถึงมวลมนุษย์มาตรัสต่อพระชายา และพระนางทรงรับฟังรับสั่งด้วยพระทัยจดจ่อ พระนางทรงยอมรับคำสอนของพระองค์ และทูลขอพระอนุญาตให้พระนางได้เป็นภิกษุณี ทีแรกพระพุทธเจ้าไม่ทรงใคร่จะอนุมัติเรื่องนี้ แต่ที่สุดก็ทรงยอมตามคำวิงวอนของพระนาง และพระชายาของพระพุทธองค์จึงได้ทรงเป็นหนึ่งในภิกษุณีรูปแรก ๆ แห่งศาสนาพุทธ

พระพุทธเจ้าทรงปฏิบัติกิจเป็นผู้เผยแผ่ศาสนาในหุบผาแม่น้ำคงคามา 45 ปี จนเวลาที่วาระสุดท้ายของพระองค์มาถึง และพระองค์ก็เสด็จล่วงลับไปจากโลก ในยามที่ทรงนอนอยู่ใกล้จะเสด็จดับขันธ์นั้น พระองค์ตรัสต่ออานนท์ ลูกพี่ลูกน้องผู้ได้กลายมาเป็นพระสาวกที่จงรักและภักดี ว่า "ดูกรอานนท์ อย่าเป็นกังวลไปเลย อย่าโศกาจาบัลย์ เราได้บอกเธอแล้วมิใช่หรือว่า พวกเราต้องพรากจากสิ่งทั้งปวงที่พวกเราถือเป็นที่รักที่ชอบใจเป็นที่สุด นานแล้วอานนท์ที่เธอได้มาอยู่ใกล้ชิดเราด้วยความเอื้อเฟื้อในการกระทำ และคำพูด และความคิดคำนึงถึง เธอได้ทำดีแล้วมาตลอด"[1] และนอกจากนี้ เมื่อมีพระดำรัสต่อพระสาวกผู้เดียวกันนี้ ยังทรงเปล่งวจีว่า "บางทีเธออาจเริ่มคิดว่า ก็เมื่อศาสดาของเธอล่วงลับไปแล้ว ถ้อยคำ[2] ก็คงจบสิ้นไปด้วย แต่เธอต้องไม่คิดเช่นนั้น เมื่อสิ้นเราแล้ว จงให้กฎและวินัยแห่งนิกายที่เราได้สั่งสอนเธอไว้เป็นศาสดาของเธอเถิด"[3]

พระองค์ทรงล่วงลับไปโดยทิ้งผู้คนมากมายที่เศร้าใจในการดับขันธ์ของพระองค์ไว้เบื้องหลัง และแม้กาลทั้งปวงจะล่วงผ่านมานานปี ก็ยังมีการสร้างวัดให้เป็นเกียรติแก่พระองค์ เหล่าภิกษุก็ยังคงดำเนินตามวินัยที่ทรงวางไว้ และชายหญิงฆราวาสก็วางดอกไม้ไว้บนแท่นบูชาพระองค์ ยอบกายลงตรงหน้าพระรูปพระองค์ และดำรงคำสอนของพระองค์ไว้ในหัวใจ

33
  1. น่าจะตรงกับที่พระไตรปิฎก (มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย 2560) ว่า "อย่าเลย อานนท์ เธออย่าเศร้าโศกอย่าคร่ำครวญเลย เราบอกไว้ก่อนแล้วมิใช่หรือว่า ความพลัดพราก ความทอดทิ้ง ความแปรเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นจากของรักของชอบใจทุกอย่าง จะต้องมี...เธออุปัฏฐากตถาคตมาช้านานด้วยเมตตากายกรรมอันเกื้อกูลให้เกิดสุขเสมอต้นเสมอปลายไม่มีประมาณ ด้วยเมตตาวจีกรรมอันเกื้อกูลให้เกิดสุขเสมอต้นเสมอปลายไม่มีประมาณ ด้วยเมตตามโนกรรมอันเกื้อกูลให้เกิดสุขเสมอต้นเสมอปลายไม่มีประมาณ อานนท์ เธอได้ทำบุญไว้แล้ว"
  2. ต้นฉบับว่า "word" ("ถ้อยคำ") แต่อาจพิมพ์ผิดอาจ "world" ("โลก")
  3. น่าจะตรงกับที่พระไตรปิฎก (มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย 2560) ว่า "บางทีพวกเธออาจจะคิดว่า ปาพจน์มีพระศาสดาล่วงลับไปแล้ว พวกเราไม่มีพระศาสดา ข้อนี้พวกเธอไม่พึงเห็นอย่างนั้น ธรรมและวินัยที่เราแสดงแล้วบัญญัติแล้วแก่เธอทั้งหลาย หลังจากเราล่วงลับไป ก็จะเป็นศาสดาของเธอทั้งหลาย"