เราได้พรรณนามาแล้วว่า เขาเพาะปลูกข้าวกันอย่างไรในดินแดนซึ่งความงอกงามของรวงข้าวบ่งบอกถึงความอยู่รอดของผู้คนหลายพันคน ในพฤติการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่น่าแปลกใจที่จะพบเจอว่า มีการประกอบพิธีกรรมอันสำคัญยิ่งก่อนปลูกข้าวในแต่ละปี พิธีนี้เรียกว่า "เทศกาลไถหว่าน"[1] และคาดหมายได้ว่า จะไม่มีใครลงมือเพาะปลูกในไร่นาตนจนกว่าจะดำเนินพิธีในวันนักขัตฤกษ์นี้แล้ว
ฝนจะมาราวมีนาคมหรือเมษายน และชาวนาจะหันไปง่วนอยู่กับงานซึ่งอยู่เบื้องหน้าตน จะมีการปรึกษาโหราจารย์ในเรื่องวันมงคลสำหรับเทศกาลไถหว่าน และเมื่อกำหนดวันนี้กันแล้ว ทุกคนจะใจจดใจจ่อรอดูว่า จะเกิดอะไรขึ้น เพราะในวันนี้จะได้รู้กันสักทีว่า ฤดูกาลที่จะถึงจะดีร้ายประการใด
เจ้าชายพระองค์หนึ่งจะทรงเป็นประธานในเทศกาล และปฏิบัติงานแทนพระเจ้าแผ่นดินเป็นการเฉพาะคราว เจ้าชายจะทรงสวมมงกุฎ[2] ทรงมีร่มหลวง[3] และยิ่งกว่านั้น จะทรงได้เงินภาษีส่วนหนึ่งด้วย สมัยหนึ่งเคยยอมให้ข้าทาสบริวารส่วนพระองค์ของเจ้าชายหยิบฉวยข้าวของจากร้านค้าตามเส้นทางที่ขบวนผ่านโดยไม่ต้องชำระราคาก็ได้
เจ้าชายจะทรงตื่นแต่เช้าตรู่ และฉลองพระองค์ชุดพิเศษทำจากวัสดุเลอค่า พระองค์จะทรงครุยยาวทำจากผ้าตาข่ายสีขาวทับเสื้อคลุม ครุยนั้นมีรูปผลหมากรากไม้