เรื่องพระราชลัญจกรและตราประจำตัวประจำตำแหน่ง/คำนำ

คำนำ

ในงานพระเมรุท้องสนามหลวง พุทธศักราช ๒๔๙๓ สำนักพระราชวังแจ้งพระบัญชาพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนชัยนาทนเรนทร เมื่อทรงดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ทรงมอบภาระการเลือกและการพิมพ์หนังสือสำหรับพระราชทานแจกงานพระบรมศพและพระศพทุกงานมาให้กรมศิลปากรจัดทูลเกล้าฯ ถวาย กรมศิลปากรได้เลือกเรื่องสำหรับพิมพ์ในงานพระบรมศพและพระศพแต่ละงานดังนี้ คือ

๑. งานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พิมพ์เรื่องพระประวัติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระนิพนธ์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ

๒. งานพระศพสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิต พิมพ์พระราชหัตถเลขา เรื่อง เสด็จประพาสลำน้ำมะขามเฒ่า และพระราชกระแส เรื่อง จัดการทหารมณฑลกุรงเทพฯ ในรัชกาลที่ ๕

๓. งานพระศพสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ พิมพ์เรื่องพระราชลัญจกรและตราประจำตัวประจำตำแหน่ง ซึ่งพระยาอนุมานราชธน (ยง เสฐียรโกเศศ) เรียบเรียง

๔. งานพระศพพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพวงสร้อยสอางค์ พิมพ์ประชุมพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๔ ภาคปกิณกะ (ภาค ๑)

๕. งานพระศพพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประภาพรรณพิไลย พิมพ์เรื่องตำราแบบธรรมเนียมในราชสำนักครั้งกรุงศรีอยุธยา กับพระวิจารณ์ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ

เรื่องที่พิมพ์ในสมุดนี้ คือ เรื่องพระราชลัญจกรและตราประจำตัวประจำตำแหน่ง ซึ่งพระยาอนุมานราชธนเรียบเรียง เหตุที่เรียบเรียงเรื่องนี้มีปัจจัยมาจากที่พระยาอนุมานราชธนเห็นตราโบราณคดีสโมสรมีรูปเป็นมังกรเล่นแก้ว ดูเก่ามาก ไม่ทราบว่ามังกรมีความหมายเกี่ยวข้องอย่างไรกับเรื่องโบราณคดี จึงได้ใช้เป็นตราเครื่องหมายเช่นนั้น คิดไม่เห็น จึงกราบทูลถามสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ก็ทรงพระเมตตาตรัสเรื่องให้ทราบ ต่อมา เมื่อเห็นในราชพิพิธภัณฑ์มีพระตราต่าง ๆ ของหลวงตั้งแสดงอยู่ตู้หนึ่ง เห็นที่เป็นพระราชลัญจกรของเก่าก็มี เกิดความสนใจอยากรู้ จึ่งขออนุญาตจำลองตราเหล่านั้นเป็นลายประทับเอามาเก็บไว้ แล้วส่งถวายลายจำลองดวงตราเหล่านั้นไปเป็นคราว ๆ ตามแต่โอกาสเพื่อขอประทานตรัสอธิบาย ก็มีพระกรุณาตรัสเล่าประทานมาเป็นคราว ๆ เมื่อทรงมีเวลาว่าง ต่อมาเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๒ พระยาอนุมานราชธนรวบรวมพระอธิบายตรัสเล่าเหล่านี้ซึ่งกระจัดกระจายปนอยู่ในลายพระหัตถ์หลายฉะบับทำเป็นบันทึกขึ้นแล้วถวายทอดพระเนตร ก็ทรงพระเมตตาแก้ไขทักท้วงข้อความในลางแห่ง คงทำเป็นบันทึกไว้ได้ไม่กี่หน้ากระดาษก็ระงับไป เพราะพระยาอนุมานราชธนปลีกเวลาเพื่อรวบรวมทำให้แล้วเสร็จไม่ได้ จนเวลาล่วงเลยมานาน จึงจับต้นทำใหม่ แต่ความคิดเปลี่ยนไปจากเดิม คือ เรียบเรียงเรื่องขึ้นให้เป็นหมวดหมู่เท่าที่จะรวบรวมได้ แล้วถวายไปเพื่อทอดพระเนตร นับแต่ได้ถวายไปแล้วก็ไม่ได้รับข้อทักท้วงอย่างไรจากเสด็จพระองค์ท่าน คงตรัสแต่เรื่องอื่น ๆ ตลอดมา พระยาอนุมานราชธนก็ไม่กล้ากราบทูลเตือน เพราะทราบดีอยู่ว่า เรื่องต่าง ๆ ที่ทรงทำ พระองค์ท่านไม่ได้ทรงทอดทิ้งแม้แต่เรื่องเดียว หากแต่ยังไม่มีเวลาว่าง หรือเรื่องนั้นยังบกพร่องอยู่ ก็ทรงรอไปก่อน กาลได้ล่วงเลยมานานจนประชวรและสิ้นพระชนม์ลง พระยาอนุมานราชธนก็ระลึกถึงเรื่องพระราชลัญจกรที่ได้เรียบเรียงไว้ว่า ถ้าได้มีโอกาสตีพิมพ์เป็นหนังสือขึ้นในงานพระราชทานเพลิงพระองค์ท่าน ก็จะเหมาะด้วยประการทั้งปวง เพราะเป็นเรื่องที่ทรงสนพระทัยอยู่มาก พระยาอนุมานราชธนจึงขอร้องหม่อมเจ้ายาใจ จิตรพงศ์ โอรสพระองค์ท่าน ให้ช่วยตรวจดูในบรรดาลายพระหัตถ์ว่า จะมีเรื่องพระราชลัญจกรตกค้างอยู่บ้างหรือไม่ หม่อมเจ้ายาใจจึงนำเอาเรื่องพระราชลัญจกรที่พระยาอนุมานราชธานเรียบเรียงและถวายไว้คืนมาให้ดู พร้อมทั้งลายพระหัตถ์ที่ทรงตอบซึ่งทรงค้างไว้ ความจึงปรากฏว่า ได้ทรงคัดเติมข้อความที่พระยาอนุมานราชธนเรียบเรียงไว้อยู่มากแห่ง และในร่างลายพระหัตถ์ยังมีข้อความอื่น ๆ ซึ่งล้วนเป็นความรู้หาค่ามิได้ตรัสอธิบายให้ทราบอีกหลายประการ แต่เมื่อรวบยอดแล้ว ตรัสว่า ที่เรียบเรียงมานั้นก็ดีอยู่ แต่ยังไม่พอพระทัย เพราะขาดการค้นคว้า เรื่องยังมีอยู่มีมากประการ และทรงแนะวิธีค้นและเรียงความเสียใหม่ให้เป็นไปตามลำดับนั้นด้วย ทั้งนี้ นับว่าเป็นพระกรุณาคุณล้นเกล้าฯ แต่ก็ช้าเสียแล้ว เพราะเวลามีเหลืออยู่น้อย จะทำการค้นคว้าตามที่ทรงแนะนำไว้คงไม่ทันกัน ทั้งพระยาอนุมานราชธนก็เสียกำลังใจที่จะทำต่อ เพราะสิ้นพระองค์ท่านซึ่งเป็นที่พึ่งเสียแล้ว ถ้าติดก็ไม่ทราบว่าจะไปถามใคร จึงตกลงใจไม่รื้อโครงในข้อความที่เรียบเรียงไว้แล้ว เป็นแต่ตัดเติมแก้ไขข้อความตามที่ทรงทักท้วงและตรัสเพิ่มเติมมาเท่านั้น คือ เป็นดังเรื่องที่ตีพิมพ์อยู่นี้ แต่ก็ไม่หมดเรื่องทีเดียว เพราะยังมีพระราชลัญจกรกระบวนจีน พระราชลัญจกรเบ็ดเตล็ด และพระราชลัญจกรในพระบาทสมเด็จฯ กรมพระราชวังบวรฯ ที่ไม่ได้นำเอามารวมไว้ด้วย เพราะค้นคว้าไปยังไม่ได้ตลอด แม้จะนำเอาเท่าที่ได้มาแล้วมารวมไว้ด้วย ถ้าพระองค์ท่านทรงทราบด้วยพระญาณวิถีใด ๆ ก็คงไม่โปรด เพราะเรื่องยังบกพร่องอยู่มาก จึงงดเสีย พระยาอนุมานราชธนขอน้อมเกล้าฯ อุทิศน้ำพักน้ำแรงที่ได้เรียบเรียงเรื่องนี้ขึ้นถวายแด่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ เป็นพลีบรรณาการด้วยความซาบซึ้งในกตัญญูกตเวที

ขอพระราชกุศลที่ทรงบำเพ็ญเป็นส่วนบรมวงศญาติสังคหธรรมนี้จงสำเร็จแด่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ซึ่งสิ้นพระชนม์ล่วงลับไป ตามควรแก่คติวิสัยในสัมปรายภพทุกประการ.

  • กรมศิลปากร
  • ๑๐ เมษายน ๒๔๙๓