เรื่องสั้น ๆ ของครูเทพ/เรื่อง 3

คนชั้นกลาง

เคยมีคำกล่าวสัพยอกว่า "พวกเรา ถ้าไม่ทำนา ก็ทำราชการเท่านั้น" คำสัพยอกนี้มีความจริงอยู่มากจนกระทั่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ ถึงแม้ทุกวันนี้จะว่าไม่จริงเสียเลยก็ยังกล่าวไม่เต็มปากนัก แต่มีอะไรปลาดบ้าง? ประเทศเกษตรกรรม จะไม่ให้คนเป็นกสิกรได้หรือ? และประเทศเอกราช จะไม่ให้คนเป็นรัฐบุรุษปกครองตัวเองหรือ? แม้บัดนี้ เราได้เริ่มทำการพาณิชและอุตสาหกรรมเข้าแล้ว ก็เป็นธรรมดาที่กสิกรในโลกปัจจุบันจะต้องค้าพืชผลของตน และเป็นความจำเป็นที่ประเทศกสิกรรมปัจจุบันจะทิ้งอุตสาหกรรมเสียทีเดียวไม่ได้ คำสัพยอกนี้ ถ้าจะมีสาระอยู่บ้าง ต้องอ่านไปในแง่ที่ว่า เราขาดคนชั้นกลาง มิตรของท่านและของข้าพเจ้า คือ พระยาเทพศาสตร์สถิตย์ ผู้ล่วงลับไปแล้ว ได้ใส่ใจนักในอันจะใช้เกษตรกรรมเป็นร่างร้านสร้างคนชั้นกลางขึ้น

โครงการศึกษาเกษตรกรรมของท่านบากท่าไปทางนี้ คือ ท่านปรารถนาชุบกสิกรของเราให้ทันสมัยด้วยให้การศึกษาเกษตรกรรมทางวิทยาศาสตร์ หรืออีกนัยหนึ่งว่า ให้นึกถึงทำไม? แทนที่จะนึกถึงแต่อะไร? เท่านั้น ท่านต้องการสร้างคนชั้นกลางขึ้นจากแถวกสิกรสามัญผู้เป็นกระดูกสันหลังของประเทศ โครงการของท่านได้ตั้งต้นดำเนินมาแต่ พ.ศ. ๒๔๖๐ นับได้ยี่สิบปีเข้านี่แล้ว แต่อนิจจา งานเริ่มริเป็นงานที่ต้องผจญภัย ท่านจึงได้เห็นผลงานของท่านเพียงต้วมเตี้ยมอยู่ในระยะผจญภัยเท่านั้น อย่างไรก็ดี ท่านได้วางรากลงไว้แล้ว เป็นหน้าที่ของสมาคมเทพกสิกรผู้จะก่อต่อไปให้สำเร็จ

ในการให้การศึกษาแก่กสิกร โครงการเริ่มด้วยฝึกหัดครูขึ้นก่อน สมาชิกส่วนใหญ่ของสมาคมเราจึงเป็นครูเกษตรกรรม เป็นการถูกแล้ว เพราะงานขนานใหญ่ ไม่หัดครูขึ้น จะไปเก็บตกเอาที่ไหน? และเมื่อจะขันไก่ จะเอาเป็ดขันได้หรือ? พอเข้าระยะตั้งโรงเรียนหัดนักเรียนสามัญ ครูเกษตรกรรมบ้าง นักเรียงบ้าง ได้ความรู้ ความชำนาญ และทรัพย์พอเป็นทุนบ้างแล้ว จะได้ตั้งตัวเป็นคหบดีกสิกรขึ้นบ้าง พวกนี้เองเป็นคนชั้นกลางที่ท่านมุ่ง ซึ่งเราอาจได้ปริมาณมากกว่าหาทางพาณิชหรืออุตสาหกรรม เพราะเหตุที่เราเป็นประเทศเพาะปลูก และจะอยู่ในระยะเพาะปลูกไปจนกว่าเราจะมีสำมโนครัว ๖๐ ล้าน

จริงอยู่ อาชีพเกษตรกรรมจะเอาร่ำรวยไม่ได้ เป็นอาชีพไม่รุ่งโรจน์ มักไม่สมประกอบ ต้องเผชิญภัยบ่อย ๆ แม้ตัวอย่างในยุโรปก็แลเห็นอยู่ กสิกรที่มั่งคั่ง เขามั่งคั่งด้วยการพาณิชต่างหาก นี้เองเป็นน้ำหนักของฝ่ายค้าน แต่อย่างไรก็ดี ไม่มีใครเถียงว่า อาชีพเกษตรกรรมไม่ใช่อาชีพสงบ มีน้ำบ่อทรายเป็นเครื่องเลี้ยงชีพ และเมื่อการค้าเป็นกิจส่วนหนึ่งของกสิกรอยู่แล้ว ใครมีหัวคิดค้าให้ร่ำรวยได้ กลับยิ่งดีเสียอีก และถ้าหัวคิดนั้นยึดทำไม? เป็นสรณะยิ่งกว่าอะไร? แล้ว ความเจริญของเขาจะมีได้ทั้งทางเกษตรกรรมและทางพาณิช เพราะเขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ อยู่ในอำนาจแห่งเหตุ รอดพ้นจากอำนาจทารุณแห่งอารมณ์

เชิญเถิด ท่านสมาชิกทั้งหลายแห่งสมาคมเทพกสิกร ท่านตั้งความมุ่งหมายไว้ดีแล้ว ท่านเป็นฝากใฝ่แห่งกระดูกสันหลังของประเทศแล้ว ถ้าท่านเป็นผู้ปั้นคนชั้นกลางของประเทศให้เป็นปึกแผ่นขึ้นได้ด้วย ท่านจะได้บุญนัก อุปสัคของท่านมีมาก บุตรกสิกรผู้ได้ความรู้ใหม่ไปแล้วจะยังไม่ค่อยมีโอกาสใช้ความชำนาญจะได้มาแต่ไหน? แต่ท่านว่า "ความตั้งใจมีแล้วที่ไหน ลู่ทางย่อมเปิดให้ที่นั่น" เพราะฉะนั้น ขอสมาคมเทพกสิกรจงเจริญ.