การฉลองรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475

วันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๔๗๕
เล่ม ๔๙ หน้า ๓๑๙๘
ราชกิจจานุเบกษา

การฉลองรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม
พุทธศักราช ๒๔๗๕

เนื่องจากประธานสภาผู้แทนราษฎรนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ในการที่สภาผู้แทนราษฎรจะทำการฉลองรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยามซึ่งได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานแล้วนั้นณพระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต และขอพระราชทานพระกรุณาบารมีปกเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนิรพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ไบประทับเป็นประธานในการนั้นเพื่อเป็นสวัสดิมงคลแด่ราษฎรสยาม มีพระราชหฤทัยยินดีอำนวยตามความประสงค์ จึ่งโปรดเกล้าฯ ให้ประกอบการฉลองรัฐธรรมนูญ ดั่งต่อไปนี้

วันที่ ๑๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๗๕ เจ้าพนักงานพระราชพิธีเชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒนประจำรัชชกาลปัจจุบันไปประดิษฐานพร้อมด้วยฉะบับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยามที่พระที่นั่งอนันตสมาคมสรรพด้วยเครื่องมงคลพิธีพร้อมเสร็จ

เวลา ๑๗ นาฬิกา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเครื่องเต็มยศทหารบก ประดับเครื่องราชอิสสริยาภรณ์สอดสายสะพายมหาปรมาภรณ์ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงรถยนตร์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนิรไปยังพระที่นั่งอนันตสมาคม ทรงเป็นประมุขนำคณะกรรมการราษฎรและเสนาบดี ทรงประเคนผ้าไตรพระสงฆ์ ๒๑ รูป มีพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน สมเด็จพระสังฆราชเจ้า เป็นประธานพระสงฆ์ออกไปครองผ้าเสร็จกลับมานั่งเหนืออาสน แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการ สมเด็จพระสังฆราชเจ้าถวายศีล พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนตร์จบ สมเด็จพระสังฆราชเจ้าถวายอติเรก สมเด็จพระวันรัตถวายพระพรลากลับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ บระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนิรกลับ

วันที่ ๑๒ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๗๕ เวลา ๑๐ นาฬิก ๕๕ นาฑี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเครื่องครึ่งยศทหารเรือ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนิรมายังพระที่นั่งอนันตสมาคม ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการ ทรงศีล พระสงฆ์ ๒๑ รูป มีสมเด็จพระสังฆราชเจ้าเป็นประธานที่เจริญพระพุทธมนตร์เมื่อเย็นวันก่อนถวายพรพระแล้ว ทรงเป็นประมุขนำคณะกรรมการราษฎรและเสนาบดีประเคนจตุปัจจัยไทยธรรม พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา สมเด็จพระสังฆราชเจ้าถวายอติเรก สมเด็จพระวันรัตถวายพระพรลา เมื่อพระสงฆ์กลับแล้ว พระยามโนปกรณนิติธาดาได้กราบบังคับทูลเบิกบรรดาคณะราษฎรทุกคนที่ไปชุมนุมณะที่นั้นเข้าเฝ้าฯ ทีละคนจนหมด

พอได้เวลา โปรดเกล้าฯ ให้พราหมณ์เบิกแว่น ข้าราชการรับแว่นเวียนเทียนสมโภชพระพุทธปฏิมาชัยวัฒนและฉลิงรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พราหมณ์เป่าสังข์ พนักงานภูษามาลาแกว่งบัณเฑาะว์ ชาวพนักงานประโคมฆ้องชัย แตรงอน แตรฝรั่ง เครื่องดุริยางค์ เวียนเทียนครบสามรอบแล้ว พนักงานเชิญฉะบับรัฐธรรมนูญจากพานไปทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจิม แล้วเชิญกลับไปไว้ยังที่เดิม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนิรกลับ

เวลา ๑๖ นาฬิกา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนิรไปประทับพระแท่นราชอาสน์หน้าพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท นักเรียนและลูกเสือได้เดิรกระบวนผ่านหน้าพระที่นั่งถวายตัว เสร็จแล้ว เสด็จกลับ

งานนี้ ปัจจุบันเป็นสาธารณสมบัติแล้ว เพราะลิขสิทธิ์ได้หมดอายุตามมาตรา 19 และมาตรา 20 ของพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ซึ่งระบุว่า

ถ้ารู้ตัวผู้สร้างสรรค์ ในกรณีที่ผู้สร้างสรรค์เป็นบุคคลธรรมดา
  1. ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์ถึงแก่ความตาย
  2. ถ้ามีผู้สร้างสรรค์ร่วม ลิขสิทธิ์หมดอายุ
    1. เมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์ร่วมคนสุดท้ายถึงแก่ความตาย หรือ
    2. เมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้โฆษณางานนั้นเป็นครั้งแรก ในกรณีที่ไม่เคยโฆษณางานนั้นเลยก่อนที่ผู้สร้างสรรค์ร่วมคนสุดท้ายจะถึงแก่ความตาย
ถ้ารู้ตัวผู้สร้างสรรค์ ในกรณีที่ผู้สร้างสรรค์เป็นนิติบุคคล หรือถ้าไม่รู้ตัวผู้สร้างสรรค์
  1. ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้สร้างสรรค์งานนั้นขึ้น
  2. แต่ถ้าได้โฆษณางานนั้นในระหว่าง 50 ปีข้างต้น ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้โฆษณางานนั้นเป็นครั้งแรก