คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 26/2557

คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ที่ ๒๖/๒๕๕๗
เรื่อง ห้ามมิให้กระทำการใด ๆ หรือสั่งให้กระทำการใด ๆ เกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงิน
หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของบุคคล เท่าที่จำเป็นแก่การรักษาความมั่นคงของชาติ
และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรวม

ตามที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มีคำสั่งที่ ๓/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๓ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ และคำสั่งที่ ๕/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม นั้น เนื่องจากปรากฏว่าบุคคลที่มีรายชื่อต้องมารายงานตัวบางรายฝ่าฝืนไม่มารายงานตัวตามคำสั่งดังกล่าว ดังนั้น เพื่อป้องกัน ระงับ มิให้บุคคลทั้งสองกระทำการช่วยเหลือหรือสนับสนุนด้านการเงินแก่บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่กระทำการหรือมีการกระทำที่ก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยของบ้านเมือง จึงออกคำสั่งดังนี้

ข้อ ๑ ห้ามมิให้สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน ธนาคารตามที่ได้มีกฎหมายจัดตั้งขึ้นโดยเฉพาะ บริษัทหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ บริษัทประกันชีวิตตามกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต และบริษัทประกันวินาศภัยตามกฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัย และสหกรณ์ตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์ นิติบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับปัจจัยชำระเงินต่างประเทศตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน นิติบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้บริการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด นิติบุคคลที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าตามกฎหมายว่าด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และนิติบุคคลที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจการซื้อขายล่วงหน้าตามกฎหมายว่าด้วยการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า ทำนิติกรรมสัญญา หรือการดำเนินการใด ๆ ทางการเงิน ทางธุรกิจ หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สิน และห้ามมิให้บุคคลหรือนิติบุคคลใดรับซื้อหรือรับแลกเปลี่ยนเช็ค ตั๋วสัญญาใช้เงิน ตั๋วแลกเงิน หรือตราสารทางการเงินอื่น ๆ ที่สั่งจ่ายให้กับบุคคลดังต่อไปนี้

๑. นายสมบัติ บุญงามอนงค์

๒. จ่าสิบตำรวจ ประสิทธิ์ ไชยศีรษะ

ข้อ ๒ ให้สถาบันการเงิน และนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจตามข้อ ๑ แจ้งและส่งข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมของบุคคลดังกล่าวที่ได้กระทำขึ้นตั้งแต่วันที่ ๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ จนถึงวันที่ ๒๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ ส่งให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ภายในสามวันนับตั้งแต่วันที่มีคำสั่ง

ข้อ ๓ การขอเพิกถอนคำสั่งห้ามทำนิติกรรมสัญญาหรือการดำเนินการใด ๆ ทางการเงิน ทางธุรกิจ หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินกับบุคคลทั้งสอง เฉพาะรายครั้งแล้วแต่กรณี ให้บุคคลทั้งสองพร้อมด้วยสถาบันการเงิน หรือนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจ ตามข้อ ๑ ยื่นคำขอ และแสดงตนต่อหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ พร้อมด้วยหลักฐานที่แสดงว่าการทำนิติกรรม สัญญาหรือการดำเนินการใด ๆ ทางการเงิน ทางธุรกิจ หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินตามข้อ ๑ ไม่ได้เป็นการกระทำ หรือสนับสนุนการกระทำเพื่อให้เกิดเหตุแห่งความไม่สงบเรียบร้อยของบ้านเมือง

ข้อ ๔ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป


  • สั่ง ณ วันที่ ๒๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗
  • พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
  • หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

บรรณานุกรม แก้ไข

 

งานนี้เป็นสาธารณสมบัติ เพราะเนื้อหาทั้งหมดเป็นข้อมูลข่าวสารที่เป็นสาธารณะ และหาผู้สร้างสรรค์แท้ ๆ ไม่ได้ ทำให้ขาดคุณสมบัติในการมีลิขสิทธิ์