คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 47/2557

คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ที่ ๔๗/๒๕๕๗
เรื่อง การปฏิบัติหน้าที่ในคณะกรรมการต่าง ๆ

ตามที่มีประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๖/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๒ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ เรื่อง แต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๐/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๒ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ เรื่อง ให้อำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีเป็นอำนาจหน้าที่ของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และฉบับที่ ๒๒/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๓ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ เรื่อง การจัดส่วนงาน การกำหนดอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาตินั้น

โดยที่การกำหนดอำนาจหน้าที่และการแบ่งมอบความรับผิดชอบดังกล่าว เป็นการมอบความรับผิดชอบและการกำกับดูแลหน่วยงานในสายงานของหัวหน้าฝ่ายต่าง ๆ ดังนั้น เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินดำเนินไปได้โดยเรียบร้อย จึงสมควรมอบหมายการปฏิบัติหน้าที่ในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง หรือมติคณะรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑. ให้ผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายหรือรองหัวหน้าฝ่ายต่าง ๆ ในระดับแปลงนโยบายไปสู่การปฏิบัติเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ประธาน รองประธาน หรือกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง หรือมติคณะรัฐมนตรีตามสายงานความรับผิดชอบของตน แล้วแต่กรณี โดยถือว่าการมอบหมายของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติเป็นการใช้อำนาจนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรี เว้นแต่จะสั่งการเป็นอย่างอื่น

ข้อ ๒. ในกรณีที่กฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง หรือมติคณะรัฐมนตรีกำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงใด เป็นประธาน รองประธาน หรือกรรมการ ให้ปลัดกระทรวงซึ่งมีประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๖/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๒ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ เรื่อง ให้ปลัดกระทรวงปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีเป็นการชั่วคราว กำหนดไว้แล้ว เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ประธาน รองประธานหรือกรรมการในคณะกรรมการนั้น ๆ แล้วแต่กรณี เว้นแต่จะสั่งการเป็นอย่างอื่น

ข้อ ๓. ในการปฏิบัติหน้าที่ตามข้อ ๑ และข้อ ๒ ถ้ามีข้อขัดข้อง หรือเป็นการพิจารณาปัญหาสำคัญในเชิงนโยบาย หรือคาบเกี่ยวกับฝ่ายอื่นหรือก่อให้เกิดภาระทางงบประมาณในสาระสำคัญ ให้หารือหัวหน้าฝ่ายหรือหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ แล้วแต่กรณี

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป


  • สั่ง ณ วันที่ ๓ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๗
  • พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
  • หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

บรรณานุกรม แก้ไข

 

งานนี้เป็นสาธารณสมบัติ เพราะเนื้อหาทั้งหมดเป็นข้อมูลข่าวสารที่เป็นสาธารณะ และหาผู้สร้างสรรค์แท้ ๆ ไม่ได้ ทำให้ขาดคุณสมบัติในการมีลิขสิทธิ์